
สอนลูกน้อยให้แบ่งปันจากเรื่องรอบตัว
การเลี้ยงลูกย่อมมีความคาดหวังเสมอ คุณแม่คงอยากให้ลูกเป็นเด็กดีของครอบครัว และเป็นคนดีของสังคม นิสัยใดที่เป็นพื้นฐานที่ดี คุณพ่อคุณแม่ย่อมอยากปลูกฝังลูกตั้งแต่เล็กๆ เรื่องการแบ่งปันก็เช่นกัน เรามักบอกลูกว่า “มีอะไรก็แบ่งกัน” เวลาพูด ลูกก็พยักหน้า แต่พอถึงเวลาจะให้แบ่งจริง ก็กลายเป็นลืมไปหมดแล้ว...ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีเทคนิคค่ะ
รู้จัก รู้ใจ ลูกน้อยเตาะแตะ
ธรรมชาติของเจ้าหนูวัย 1- 3 ปี จะมีพัฒนาการทางสังคมดังนี้ค่ะ
- ยังมีความต้องการที่จะให้ได้อะไรอย่างใจทันที
- รู้จักแยกตัวเองจากสิ่งแวดล้อม และจากผู้เลี้ยงดู
- มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
- ทักษะทางภาษาดีขึ้นมาก สามารถใช้คำพูดบอกแทนการกระทำให้เข้าใจได้ ดังนั้นเด็กจึงบอกความต้องการของตัวเองที่แสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ และการเป็นตัวของตัวเองให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้และเข้าใจมากยิ่งขึ้น
ลูกน้อย ไม่ยอมแบ่งจริงหรือ
คงมีคุณพ่อคุณแม่หลายคนที่คิดว่า ทั้งๆ ที่คอยสอน คอยบอกให้ลูกแบ่งปันอยู่เสมอ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ลูกกลับไม่ยอมให้ จึงสงสัยว่า สอนผิดวิธีหรือเปล่า หรือว่าลูกเรามีนิสัยแบบนี้...เด็กวัยนี้เป็นแบบนี้ทุกคนค่ะ เนื่องจากเป็นการพัฒนาการทางอารมณ์ สังคม และความต้องการของเด็ก จะพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาการการเคลื่อนไหว และภาษา เรียกว่าเป็นพัฒนาการปกติในเด็กวัยนี้ทุกคน
สอนอย่างไร ให้แบ่งเป็น
จะใช้วิธีไหนในการสอนลูกให้แบ่งปัน...ไม่ยากค่ะ วิธีที่ดีที่สุดของการสอนคือ คุณพ่อคุณแม่ทำเป็นแบบอย่างให้ลูกเห็นตั้งแต่เล็ก จนเป็นเรื่องเคยชินของเด็ก และให้ลูกได้มีโอกาสแบ่งปัน เช่น
- เวลาคุณแม่จะเอาของไปฝากเพื่อนบ้าน ให้ชวนลูกไปด้วย ให้ลูกน้อยช่วยส่งของฝากให้พร้อมกับคุณแม่
- เวลาซื้อขนมหรือของให้ลูก ก็หยิบให้ลูกชิ้นหนึ่ง แล้วบอกลูกให้หยิบของอีกชิ้นไปให้พี่ น้อง หรือเพื่อนๆ ด้วย
เมื่อลูกแบ่งปันให้คนอื่น คุณแม่ก็ต้องรู้จักแสดงความชื่นชมด้วยคำพูด และสีหน้า เช่น “หนูเป็นเด็กมีน้ำใจ แม่ภูมิใจในตัวหนูมากเลย” แล้วในที่สุดลูกก็จะรู้จักแบ่งปัน โดยการเลียนแบบและการส่งเสริมพฤติกรรมด้วยคำชมของคุณแม่ เหมือนตัวอย่างที่ยกขึ้นมาข้างต้น
สิ่งที่สำคัญคือ ถ้าลูกยังไม่ยอมแบ่ง ก็ไม่ควรว่ากล่าว เพราะลูกอาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ในสิ่งที่ตัวเองยังต้องการอยู่ ในเมื่อของชิ้นนั้นเป็นของเขา เมื่อลูกโดนว่าจะยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่ไม่ดีเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นควรรอให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง อาศัยความใจเย็น และค่อยๆ ให้ลูกได้เห็น ได้มีประสบการณ์เพิ่มขึ้นจะดีกว่าค่ะ
แม้ว่าอาการหวงของจะเป็นธรรมชาติของเด็กวัยนี้ แต่การปล่อยไปโดยไม่ฝึก หรือปลูกฝังในเรื่องการแบ่งปัน เพราะคิดว่าโตขึ้นก็จะหายไปเองได้นั้น ไม่ถูกต้องค่ะ เพราะการแบ่งปันไม่ได้เป็นธรรมชาติของคน การแบ่งปันเป็นสิ่งที่เกิดจากการเลี้ยงดู จึงจำเป็นที่จะต้องฝึกอบรมให้ลูกรู้จักแบ่งปัน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตของลูกต่อไป จะทำให้ลูกเป็นที่ยอมรับ และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
การแบ่งปันของให้ผู้อื่นเป็นสิ่งดี แต่ถ้าลูกเป็นเด็กใจอ่อน จนกลายเป็นแบ่งมากไป พ่อแม่ควรมีวิธีการวางพื้นฐานให้ลูกแบ่งปันแบบถูกวิธีได้อย่างไร....ถ้าลูกรู้จักที่จะแบ่งปันด้วยตัวของลูกเอง โดยไม่ถูกบังคับจากคนอื่น ลูกจะพัฒนาเป็นคนที่มีน้ำใจ เป็นที่รักของคนที่ได้รู้จัก ไม่กลายเป็นคนยอมคนอื่น หรือไม่กล้า เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดจากความคิดการตัดสินใจจากลูกเองว่า จะแบ่งปันหรือไม่ และเมื่อโตขึ้นวุฒิภาวะการตัดสินใจย่อมมีมากขึ้น ถ้าลูกได้รับการอบรมได้เห็นตัวอย่างที่ดี ลูกจะมีความคิดเป็นของตัวเองในวิถีทางที่ถูกต้องค่ะ
อาการหวงของในเด็กบางคน บางครั้งจบด้วยการทำร้ายคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ เช่น ผลัก แบบนี้เป็นพฤติกรรมปกติหรือไม่และควรแก้ไขอย่างไร...การหวงของเป็นเรื่องปกติของเด็กวัยนี้ แต่เด็กก็จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเอง ไม่ทำร้ายผู้อื่น โดยสอนให้ลูกพูดบอกกับเพื่อน ถ้าเพื่อนยังเอาไปอีก ก็ต้องให้ลูกไปบอกผู้ใหญ่ให้จัดการให้ ไม่ใช้กำลัง แต่เรื่องแบบนี้ บางครั้งเด็กอาจมีพลั้งเผลอบ้าง เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะค่อยๆ พูด ค่อยๆ บอก ให้เด็กเข้าใจ เพราะวัยนี้ยังเป็นวัยที่ไม่เข้าใจในเรื่องซับซ้อนค่ะ
ขอให้สนุกกับการสอนลูกน้อยแบ่งปันนะคะ