มุมพ่อแม่ / ก่อนตั้งครรภ์
|
ตรวจอัตราซาวด์ในอุงเชิงกราน
อัลตราซาวด์คืออะไร อัลตราซาวด์ (ultrasound) แปลว่าคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งหูคนรับความรู้สึกไม่ได้ ในทางการแพทย์เรานำมาใช้ปล่อยออกมาไปกระทบกับอวัยวะภายในร่างกาย แล้วสะท้อนมาเข้าเครื่องตรวจจับ แล้วแปลงมาเป็นรูปภาพ หรือเป็นคลื่นเสียงที่คนจะรับฟังได้ เครื่องอัลตราซาวนด์จะประกอบด้วยเครื่องทำคลื่นเสียงความถี่สูง หัวปล่อยคลื่นและรับคลื่นสะท้อนกลับมา และเครื่องคอมพิวเตอร์ เวลาทำการตรวจแพทย์จะเอาเครื่องมือ (เรียกภาษาชาวบ้านว่าหัวอัลตราซาวด์) มาแตะที่ผิวหนังที่มีเจลทาอยู่ (เพื่อให้คลื่นเสียงผ่านเข้าร่างกายได้สะดวก) แล้วเสียงที่สะท้อนกลับมาจากอวัยวะภายใน ก็จะถูกแปลงเป็นรูปภาพให้เราเห็น สมัยนี้มีความก้าวหน้าขนาดสามารถทำให้เห็นเป็นรูปสามมิติที่เคลื่อนไหวได้ ประโยชน์ที่นำมาใช้ทางการแพทย์ สามารถใช้เครื่องอัลตราซาวด์ตรวจดูอวัยวะภายในได้หลายอย่างมาก เช่น ดูหัวใจ ตับ ถุงน้ำดี ไต ต่อมไธรอยด์ เต้านม มดลูก รังไข่ เด็กในครรภ์ ฯลฯ รวมทั้งสามารถดูการไหลเวียนของเส้นเลือดได้ ทำให้ดูได้ว่ามีเส้นเลือดที่อุดตันที่ขา หรือเลือดอุดตันที่สมองหรือเปล่า นอกจากนี้ ยังใช้เป็นเครื่องมือประกอบหัตถการผ่าตัด เช่น ประกอบการตัดชิ้นเนื้อภายใน การดูดของเหลวในช่องปอด ตับ ในช่องท้อง ในอุ้งเชิงกราน รวมทั้งนำมาประกอบการเจาะดูดไข่จากถุงรังไข่ ในกระบวนการทำการผสมเทียมในหลอดแก้ว และการเจาะดูดน้ำคร่ำในครรภ์เพื่อนำไปตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ เป็นต้น การใช้ประโยชน์ของอัลตราซาวด์ทางสูตินรีเวชกรรม ปัจจุบันเครื่องอัลตราซาวนด์มีบทบาทในด้านการตรวจวินิจฉัยและการทำหัตถการทางสูตินรีเวชกรรมอย่างกว้างขวาง เราใช้เครื่องมืออัลตราซาวนด์มาช่วยวินิจฉัย ลักษณะมดลูก เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูก ลักษณะรังไข่ที่ผิดปกติและไม่ปกติ ดูว่ามีเนื้องอกรังไข่หรือไม่ ขนาดโตแค่ไหน ดูว่าใกล้จะมีการตกไข่หรือยัง หรือว่าตกไปแล้ว ไข่ตกกี่ฟอง สภาพเยื่อบุมดลูก และมดลูกเหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์หรือไม่ และยังใช้สำหรับติดตามดูการเปลี่ยนแปลงของเนื้องอกมดลูก หรือเนื้องอกรังไข่ว่าเท่าเดิมเล็กลง หรือโตขึ้น (ซึ่งการตรวจด้วยมืออาจไม่สามารถตรวจพบได้) เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรค และประกอบการตัดสินใจวิธีการรักษา ทางด้านสูติกรรม เราใช้เครื่องอัลตราซาวนด์ตรวจพิสูจน์ยืนยันการตั้งครรภ์ ว่าตั้งครรภ์ในหรือนอกมดลูก คำนวณอายุครรภ์จากขนาดของถุงครรภ์ หรือขนาดทารก ดูว่ามีการเจริญของทารกในครรภ์เป็นปกติหรือเปล่า ดูว่าทารกมีอวัยวะผิดปกติหรือเปล่า ดูลักษณะของรกและน้ำคร่ำ ว่าอยู่ในภาวะปกติหรือภาวะที่ทารกอาจจะมีอันตราย ดูภาวะรกเกาะต่ำ วินิจฉัยภาวะรกลอกตัวก่อนคลอด ฯลฯ การนำเครื่องอัลตราซาวนด์มาช่วยประกอบการทำหัตถการทางสูตินรีเวชกรรมได้แก่ การเจาะน้ำคร่ำในครรภ์ เจาะเลือดทารกในครรภ์เพื่อนำไปตรวจ การตัดชิ้นเนื้อรกเพื่อนำไปตรวจโครโมโซมของทารก การให้น้ำเกลือในถุงน้ำคร่ำเพื่อช่วยทารกที่มีน้ำคร่ำน้อยเกินไป การเจาะดูดน้ำหรือเลือดหรือหนอง ออกจากอุ้งเชิงกราน การเจาะดูดน้ำออกจากถุงน้ำรังไข่ กรณีที่ไม่ใช่มะเร็ง การเจาะไข่และการใส่กลับตัวอ่อนในกรณีผสมเทียมเด็กหลอดแก้ว อัลตราซาวนด์เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่ การเตรียมตัวในการตรวจอัลตราซาวด์ในอุ้งเชิงกราน การตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อดูอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ก็คือ เพื่อตรวจดูอวัยวะสืบพันธุ์ ได้แก่ มดลูก รังไข่ และทารกในครรภ์เป็นส่วนใหญ่ ตรวจได้ 2 ทาง คือ ใช้เครื่องมือวางที่หน้าท้องน้อย และใช้เครื่องมือผ่านสอดเข้าไปทางช่องคลอด การตรวจผ่านหน้าท้องใช้คลื่นความถี่ต่ำกว่า ทำให้ตรวจได้ละเอียดน้อยกว่า แต่การผ่านของคลื่นไปได้ไกลกว่าได้พื้นที่การตรวจมากกว่า แต่การตรวจทางช่องคลอดใช้คลื่นความถี่สูงกว่า ทำให้ตรวจได้ละเอียดมากกว่า แต่คลื่นเสียงผ่านได้ไม่ไกลได้พื้นที่การตรวจน้อยกว่า ดังนั้นการตรวจทางหน้าท้องจึงเหมาะสำหรับดูในภาพกว้าง แต่ตรวจทางช่องคลอดเหมาะสำหรับดูสิ่งที่เล็กๆ และต้องการรายละเอียด ในการตรวจทางหน้าท้อ งแพทย์จะให้ผู้ป่วยกลั้นปัสสาวะให้มีน้ำในกระเพาะปัสสาวะเพื่อเป็นตัวนำเสียงไปยังอวัยวะอุ้งเชิงกรานได้ดี แต่การตรวจทางช่องคลอดจะให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะทิ้งก่อนตรวจ เพื่อให้เครื่องมือใกล้ชิดกับอวัยวะที่ต้องการตรวจมาก ๆ สรุป การตรวจอัลตราซาวนด์มีประโยชน์ต่อการช่วยการวินิจฉัยทางสูตินรีเวชกรรมนอกจากการตรวจด้วยมืออย่างเดียวได้หลายอย่าง ทำให้ได้การวินิจฉัยโรคได้แน่นอนและรวดเร็วขึ้น ทั้งยังช่วยการทำหัตถการได้สะดวก ปลอดภัยมากขึ้น ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื้อและตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : kapook |