ท่ามกลางการจราจรที่แออัด คับคั่งไปด้วยรถรา ณ สี่แยกไฟแดงหนึ่ง ขณะที่ทำการรอไฟเขียวอยู่นั้น ก็มีเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “พ่อไปเลย” แล้วมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็ฝ่าไฟแดง แถมยังเลี้ยวไปทางขวาซึ่งมีป้ายห้ามเลี้ยวติดอยู่ทนโท่ แต่มอเตอร์ไซค์คันนั้นกลับได้รับการเพิกเฉยจากตำรวจจราจรที่ประจำการ ณ จุดนั้นอยู่ เพียงเพราะว่าคนขับมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็เป็นตำรวจเหมือนกัน…
เหตุการณ์นี้อาจดูเป็นเรื่องปกติสำหรับในบ้านเรา แต่ในทางตรงข้ามแล้วอนาคตของเด็กชายเจ้าของเสียง “พ่อไปเลย” นั้นกลับน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในเรื่องของการขาดระเบียบวินัยค่ะ เพราะแบบอย่างของเขาในที่นี้ก็คือ “คุณพ่อ” เป็น ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรให้เขาดูเป็นตัวอย่าง หนำซ้ำคุณพ่อยังเป็นตำรวจผู้พิทักษ์กฎจราจรเองเสียด้วย สิ่งที่คุณทำให้เขาเห็น เขาก็จะคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกต้องแล้ว สักวันหนึ่งเมื่อเขาทำผิดกฎบ้าง แล้วคุณพ่อไปตักเตือนเขา ลูกอาจจะย้อนกลับมาว่า “ทีพ่อทำไมทำได้ล่ะ?” แล้วแบบนี้คุณจะตอบลูกอย่างไรดีคะ
ระเบียบวินัยสร้างได้
การ ฝึกระเบียบวินัยให้แก่ลูกสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในวัยทารก แต่สำหรับเด็กวัยเตาะแตะที่เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง หากคุณจะเริ่มฝึกระเบียบวินัยให้เขาก็ได้ค่ะ ยังไม่สายเกินไป อีกทั้งเมื่อเขาโตขึ้นเขาก็จะกลายเป็นคนที่มีระเบียบวินัย รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ และดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เขาด้วยเช่นกัน เพียงเริ่มจากสิ่งง่ายๆ ด้วยการสร้างกฎภายในบ้านขึ้นมา โดยมีคุณและเจ้าตัวเล็กร่วมกันเป็นผู้สร้างรูปแบบวินัยที่จะมีบทบาทต่อชีวิตของเขาในอีกหลายปีต่อไป
สร้างกฎที่แน่วแน่และชัดเจน
ตัดสินใจก่อนว่ากฎของคุณได้แก่อะไรบ้าง จาก นั้นปรับใช้กฎให้ตรงตามความจำเป็นและลักษณะนิสัยของลูก ซึ่งเด็กแต่ละคนอาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน และคุณสามารถอธิบายให้เขาเข้าใจถึงความยุติธรรมของกฎข้อบังคับนั้นได้
คุยกับคุณพ่อรวมถึงผู้ใหญ่คนอื่นในบ้าน ถึงกฎข้อบังคับที่คุณจะนำมาใช้กับลูก และแน่ใจว่าทุกคนเห็นด้วย
บอกลูกว่ากฎนั้นมีอะไรบ้าง ด้วยสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียงที่จริงจัง เพื่อให้ลูกรู้ว่า คุณเอาจริงแล้วนะ จากนี้ไปหากเขาไม่ทำตามหรือทำผิดกฎการลงโทษก็จะเกิดขึ้น
ควรคาดการณ์ไว้ด้วยว่า ลูกจะต้องลองดีกับคุณแน่นอน เพื่อ ทดสอบดูว่าคุณเอาจริงแค่ไหน ดังนั้นคุณควรใช้ปฏิกิริยาเดิมๆ ในทุกครั้ง เพราะการเปลี่ยนท่าทีของคุณจะมีผลกระตุ้นให้ลูกอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากเขาทำมันอีกในครั้งต่อไป และเมื่อลูกรู้แล้วว่า คุณเอาจริงลูกก็จะค่อยๆ เรียนรู้ถึงระเบียบวินัย
ทำใจยอมรับความสามารถใหม่ของเจ้าหนู ซึ่ง อาจสร้างความประหลาดใจให้กับคุณ และหมั่นประเมินผล หรือตรวจสอบดูว่ากฎระเบียบที่คุณกำหนดขึ้นมานั้น ใช้ได้ผลเพียงใด และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับทักษะและความสามารถใหม่ที่จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลูกเติบโต
กฎต้องเป็นกฎ
เนื่อง จากเด็กวัยนี้ยังมีวุฒิภาวะไม่มากพอที่จะวิเคราะห์ถึงเหตุผล หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นในการตั้งกฎหรือกติกาของครอบครัวขึ้นมา จะต้องเป็นกฎที่เด็กเข้าใจได้ง่ายและมีความชัดเจน ข้อควรคำนึงในการตั้งกฎและใช้กฎกับเด็กๆ มีดังนี้ค่ะ
- พ่อแม่และผู้ใหญ่คนอื่นๆ ภายในบ้าน ต้องมีทิศทางและเข้าใจกติกาไปในทางเดียวกัน และทำตามกติกาที่ตั้งขึ้นจริงๆ
- กฎหรือกติกาจะต้องบอกให้เด็กรู้ด้วยว่า ถ้าทำตามจะได้ผลอย่างไร หรือถ้าไม่ทำตามจะมีผลอย่างไร
- ช่วยกันตั้งกฎกติการ่วมกัน โดยให้เด็กมีส่วนร่วมด้วย เพื่อรับทราบกติการ่วมกัน และทำให้เด็กรู้สึกว่าเป็นกติกาที่เขาอยากทำตาม
- การ ให้รางวัลเมื่อเด็กทำความดี มักจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการลงโทษเมื่อเด็กทำความผิด แต่รางวัลนั้นต้องไม่ใช่การติดสินบนเด็กให้ทำความดี เพราะเขาจะกลายเป็นคนที่ทำความดีก็ต่อเมื่อเขาอยากได้ของรางวัลจากคุณค่ะ
เรียบเรียงโดย : นิตยสารบันทึกคุณแม่