ท้องแล้วเหรอ? ฝากท้องหรือยัง? คำถามนี้มักถูกถามขึ้นในผู้หญิงที่แต่งงานใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการตั้งท้องมาก่อน คนที่มีประสบการณ์ที่เคยท้องมาก่อนแล้วมักจะรู้กันว่าถ้าเกิดท้องขึ้นมาเมื่อไหร่ สิ่งแรกเลยที่ต้องทำคือ “การไปพบคุณหมอเพื่อฝากครรภ์” เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจดูสุขภาพของทารกในครรภ์ และกำหนดวันคลอดให้ในเบื้องต้น ผู้หญิงที่รู้ตัวแล้วว่าตั้งครรภ์ควรที่จะรีบไปฝากครรภ์ตั้งแต่เนินๆ ไม่ควรที่จะรอจนเลย 3 เดือนไปแล้วถึงฝากครรภ์ เพราะการไปฝากครรภ์เร็วเท่าไหร่ก็เท่ากับว่าทารกในครรภ์ก็จะมีอัตราเสี่ยงที่เป็นอันตรายน้อยลงเท่านั้น
ไปฝากครรภ์ เพื่อตรวจอะไร
- ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด
- พยาบาลจะซักประวัติเกี่ยวกับการเจ็บป่วยที่ผ่านมา และปัจจจุบัน สอบถามเกี่ยวกับการมาของประจำเดือนครั้งสุดท้าย
- สอบถามเช็กประวัติการเจ็บป่วยของคนในครอบครัวทั้งฝ่ายภรรยา และสามี
- จากการสอบถามรายละเอียดในเบื้องต้นจะเป็นข้อมูลสำหรับคุณหมอ(สูติแพทย์) เพื่อการคาดคะเนกำหนดคลอดให้คุณ
- คุณหมอจะนัดตรวจครรภ์ครั้งต่อไปเป็นระยะดังนี้
- นัดตรวจเดือนละครั้ง (อายุครรภ์ตั้งแต่ 1 เดือน– 7 เดือน)
- นัดตรวจทุกสองสัปดาห์ (อายุครรภ์ตั้งแต่ 7 เดือน – 8 เดือน)
- นัดตรรวจสัปดาห์ละครั้ง (อายุครรภ์ 9 เดือน)
ทั้งนี้หากการตั้งครรภ์มีความผิดปกติ หรือมีความเสี่ยง คุณหมอก็จะนัดให้ไปตรวจบ่อยกว่าที่กำหนด (แล้วแต่กรณีไม่เสมอไปในคนท้องทุกราย)
ใน การนัดตรวจสุขภาพครรภ์ทุกครั้ง คุณหมอจะตรวจดูจากภายนอกบริเวณท้อง เพื่อวัดขนาดของมดลูก ดูการเจริญเติบโตของทารก และตรวจหาความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นมาได้ระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ความผิดปกติของไต หรืออาการของครรภ์เป็นพิษ ซึ่งหากเป็นอาการของครรภ์เป็นพิษ ในเบื้องต้นจะตรวจพบว่าความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นจนผิดสังเกต มือเท้าบวมมาก และพบโปรตีนในปัสสาวะ เป็นต้น
เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ก็ต้องดูแลร่างกาย
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยควรนอนให้ได้ 8 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นอยู่ในกลุ่มอาหาร 5 หมู่ สำหรับหลักการทานอาหารในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ควรแบ่งเป็นมื้อย่อยๆ ออกเป็นวันละ 5-6 มื้อ การทานอาหารแบบนี้จะช่วยในเรื่องของอาหารไม่ย่อยด้วย
นอกจากนี้กลุ่มอาหารจำพวกโปรตีน อย่าง นม ไข่ เนื้อสัตว์ ถั่ว และ อาหารกลุ่มผักผลไม้ จะช่วยเพิ่มวิตามินและเกลือแร่ให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ต้องจำไว้เสมอว่าอาหารที่ทานเข้าไปในทุกมื้อนอกจากตัวคุณที่ได้รับประโยชน์ แล้ว ทารกในครรภ์ก็ได้ประโยชน์เช่นเดียวกันกับคุณด้วย ดังนั้นจะทานอะไรดูที่มีประโยชน์จริงๆ อย่าตามใจปากกับอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม แอลกอฮอล์ ผัก ผลไม้หมักดอง อาหารสุกๆ ดิบๆ เป็นต้น
เรียบเรียงโดย : นิตยสารบันทึกคุณแม่