6 เรื่องสำคัญเตรียมพร้อมก่อน การตั้งครรภ์
ใครอยากตั้งครรภ์แบบมีคุณภาพบ้างยกมือขึ้น…เชื่อว่าในผู้หญิงหลายๆ คน ที่อยากทำหน้าที่แม่ คงจะยกมือกันเป็นแถวค่ะ ที่เคยได้ยินจากคุณหมออยู่บ่อยๆ ว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่ใช่คนป่วย ก็จริงอย่างที่คุณหมอพูดแหละค่ะ ถ้าท้องแล้วคืออาการป่วยอย่างหนึ่ง ดิฉันคนหนึ่งหละก็คงไม่อยากท้อง เพราะไม่อยากป่วย …ในความเป็นจริงของการตั้งครรภ์ในผู้หญิงนั้น คือกระบวนการกลไกที่ธรรมชาติของร่างกายผู้หญิงได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อที่จะรองรับ การตั้งครรภ์ (ผู้หญิงเป็นเพศแม่ ที่สามารถมีลูก ร่างกายจะสร้าง และผลิตน้ำนมเพื่อเป็นอาหารให้กับลูก) ซึ่งในสมัยก่อนผู้หญิงสามารถมีลูกได้เป็น 10 คน แต่สมัยนี้ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ การ เลี้ยงลูก (เงินค่าใช้จ่าย) หรือความไม่พร้อมด้านสุขภาพของแม่ และพ่อ ทำให้ครอบครัวแต่งงานใหม่เลือกที่จะมีบุตรอยู่ที่ครัวเรือนละ 2 คน(เป็นอย่างต่ำ)
การเตรียมพร้อมก่อนมี การตั้งครรภ์ เพื่อให้เป็นการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ คุณผู้หญิงควรให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ค่ะ
- ตรวจร่างกายก่อนมี การตั้งครรภ์…มีคุณพ่อคุณแม่มือ อยู่ไม่น้อย ที่มีการตั้งครรภ์โดยที่ไม่ได้วางแผน เมื่อตั้งครรภ์ไปแล้ว บ่อยครั้งที่คุณหมอตรวจแล้วพบว่ามีโรคแทรกซ้อน เช่น คุณแม่ เป็นโลหิตจาง, คุณแม่ มีเนื้องอกที่มดลูก, คุณแม่ หรือคุณพ่อเป็นพาหนะธาลัสซีเมีย, คุณแม่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมัน เป็นต้น ซึ่งเมื่อมี การตั้งครรภ์ ไปแล้ว ก็อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของ ทารกในครรภ์ บางรายอาจถึงขั้นต้องยุติการตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อความพิการของทารก ดังนั้นก่อนมีการตั้งครรภ์ควรมีการวางแผน และรับคำปรึกษา แนะนำการเตรียมพร้อมจากคุณหมอทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ…ในหนึ่งสัปดาห์ควรได้มีการออก กำลังกายอย่างน้อย 3 วัน ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ, เต้นแอโรบิค, เล่นโยคะ, ปั่นจักรยาน, ตีแบดมินตัน, หรือจะเป็นการเดิน หารวิ่งเหยาะๆ วันละ 30 นาที ก็ล้วนแล้วทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บค่ะ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนมี การตั้งครรภ์ จนกระตั้งครรภ์ จะช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น ต่อการเปลี่ยนแปลงของสรีระช่วงตั้งครรภ์ การออกกำลังกายที่ต่อเนื่องไปเมื่อตั้งครรภ์แล้ว ควรเป็นช่วง ไตมาสมาสที่ 2 เป็นต้นไป การออกกำลังกายที่เหมาะสม คือ การว่ายน้ำ และการเล่นโยคะ
- พบทันตแพทย์…เรื่องของสุขภาพช่องปาก และฟัน ควรมีการเช็กก่อนมีการตั้งครรภ์ เพราะในช่วงที่ตั้งครรภ์อาจมีอาการฟันผุ ปวดฟัน (ทารกในครรภ์จะแบ่งเอาแคลเซียมที่ร่างกายคุณแม่มีสะสมไว้ และที่ได้ใหม่ในทุกๆ วันจากการทานอาหาร เพื่อนำไปพัฒนาการกระดูก และร่างกายให้เจริญเติบโต) ทำให้คุณแม่อาจขาดแคลเซียม และบางครั้งก็อาจส่งผลให้เกิดฟันผุ เนื่องจากการขาดแคลเซียม ทั้งนี้ยังมีเรื่องการทานอาหารแล้วดูแลไม่สะอาดเพียงพอ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก และฟันขึ้นได้ค่ะ ดังนั้นควรเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันก่อนมีการตั้งครรภ์ เช่น การขูดหินปูน, การอุดฟันผุ, การถอนฟันซี่ที่มีปัญหา ฯลฯ และควรได้รับการตรวจสุขภาพช่องปาก และฟันทุกๆ 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่…หากร่างกายได้รับสารอาหารที่ ไม่เพียงพอ และไม่มีคุณค่าทางอาหาร ก็ส่งผลให้ร่างกายเกิดความเจ็บป่วย หรือขาดภูมิคุ้มกันโรคขึ้นได้เช่นกัน ฉะนั้นควรให้ความสำคัญกับการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ และทานให้ครบ 5 หมู่ ทั้งก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอดด้วยนะคะ
- ทานโฟเลต…คุณหมอมักจะให้คำแนะนำ ผู้หญิงที่กำลังจะมีการตั้งครรภ์ ว่า อาหารที่คนท้องควรกิน คือ โฟเลต ควรรับประทานให้มากสุด 3 เดือน ก่อนที่จะตั้งครรภ์ และทานต่อเนื่องไปจนครบไตรมาสแรกที่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นแล้ว โฟเลตช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง และลดความพิการของทารกในครรภ์ ผู้หญิงที่ได้รับโฟเลตไม่เพียงพอจะส่งผลต่อสุขภาพทารกที่อาจมีความผิดปกติ ร้ายแรงทางสมองที่เกี่ยวกับ Neural tube defect ซึ่งเป็นความผิดปกติในการสร้างหลอดประสาทที่มีผลต่อไขสันหลังและสมอง หรืออาจพบว่ากระดูกสันหลังปิดตัวไม่สนิททำให้ของเหลวในไขสันหลังดันโป่งออก มา …ร่างกายสามารถรับโฟเลตได้จากอาหาร เช่น ในผักคะน้า บร็อกโคลี และพืชผักสีเขียวเข้มทุกชนิด รวมทั้งที่ได้รับจากการผลไม้ อย่างส้ม กับกล้วย ที่สำคัญโฟเลตเข้มข้นจะได้รับจากชนิดเม็ดที่เป็นวิตามินบำรุงตามที่คุณหมอ แนะนำค่ะ
- ผ่อนคลายอารมณ์…การจะตั้งครรภ์ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับแค่การทานอาหาร หรือการออกกำลังกายเท่านั้น แต่อารมณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน การดูแลอารมณ์ให้ผ่อนคลาย สงบ ไม่เครียด ก็จะยิ่งส่งผลให้ร่างกายสามารถปรับสมดุลให้พร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยน แปลงที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ การหากิจกรรมทำเพื่อให้ร่างกาย อารมณ์ได้ผ่อนคลาย ก็เช่น การออกกำลังกาย การไปดูหนัง ฟังเพลง หรือไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด เป็นต้น เมื่ออารมณ์ดี ไม่เครียด ร่างกายก็จะหลั่งสารแห่งความสุขที่ชื่อว่า “เอ็นโดฟิน” ที่ดีต่อรางกาย และฮอร์โมนต่างๆ ภายในร่างกายก็จะปรับสมดุลได้ดีขึ้นค่ะ
เรียบเรียงโดย : นิตยสารบันทึกคุณแม่ http://www.pregnancysquare.com
ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : www.pregnancysquare.com
|