ภาษาไทย
English

เรื่องยุ่งๆ ไม่ยุ่ง..ถ้าอยากยุ่งกัน


 

       การก้าวเข้าสู่วัยรุ่น..สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้ก็คือ "ความรู้สึกสนใจเพศตรงข้าม และการมีความรู้สึกทางเพศ" ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สิ่งเหล่านี้มักจะถูกแสดงออกมาในรูปแบบของ "ความรักแบบหนุ่มสาว" ด้วยอาการ ปิ๊ง-ปั๊ง เสียงดังคับอกเมื่อเจอใครสักคนถูกใจ อยากรู้จัก อยากคบหา จึงเกิดการจีบกันและรู้สึกอยากอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นตามมา มันเป็นความรู้สึกที่มากกว่าความรู้สึกเป็นเพื่อนเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว การมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกันบ่อย ๆ นั้น อาจชักนำให้เราทั้งสองคนก้าวไปสู่การมีเพศสัมพันธ์กันได้นะ...อยากรู้มั๊ยว่า เพราะอะไร­ ลองอ่านต่อไปเรื่อย ๆ นะ

ผู้ชายตื่นตัวทางเพศเร็วและง่ายกว่าผู้หญิง

       อารมณ์ของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นไม่เหมือนกัน นั่นคือ ฮอร์โมนเพศชายจะส่งผลทำให้ผู้ชายมีความตื่นตัวทางเพศสูงกว่าผู้หญิง เราอาจพอจะสังเกตได้จาก ผู้หญิงเวลาเห็นน่องและขนหน้าแข้งของผู้ชายก็อาจไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรมากนัก หรือดูรูปผู้ชายหล่อก็เพียงปลื้ม หรือเห็นรูปเปลือยของผู้ชายก็ร้องวี้ดว้ายวิ่งหนี ซึ่งต่างกับผู้ชาย เวลาเห็นน่อง ไหล่ เอว ตะโพก หรือภาพโป๊ๆ เปลือยๆ แม้กระทั่งมือของผู้หญิง ก็อาจทำให้คิดจินตนาการ เตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนๆ และมีความตื่นตัวทางเพศขึ้นมาได้ทันทีทันใด


       เพราะฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชายไม่เหมือนกันนั่นเอง ความต้องการทางเพศของผู้หญิงอาจปลุกเร้าได้ช้ากว่าผู้ชาย หรือพูดง่าย ๆ คือธรรมชาติของผู้ชาย "ไวไฟ" กว่า ดังนั้นเมื่อมีความสนใจในเรื่องรัก ๆ ใคร่ๆ กันเกิดขึ้น ควงกันเป็นแฟน ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจจะเพียงอยากอยู่ใกล้ๆ ให้เขาจับมือ โอบไหล่ แค่นี้ก็แสนจะมีความสุขแล้ว ..แต่ผู้ชายส่วนมากไม่ใช่เช่นนั้น เมื่อได้ใกล้ชิด ได้จับมือ ได้โอบกอด เขาจะมีอารมณ์ทางเพศเกิดขึ้นอย่างที่ผู้หญิงไม่ทันรู้สึก เมื่อเกิดอารมณ์เพศขึ้นแล้วเขาก็มักจะเกิดความรู้สึกต้องการอยากมีเพศสัมพันธ์ตามมาได้ สิ่งนี้อาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ตั้งใจได้ง่ายๆ ดังนั้น สาวน้อยจะต้องใส่ใจกับเรื่องนี้ไว้บ้างเพื่อจะได้รู้เท่าทัน และหาทางหนีทีไล่ไว้ก่อนที่อะไร ๆ มันจะเกินเลยไป ถ้ายังไม่อยากให้ความรักของเราไปจบลงที่การร่วมเพศ เพราะถ้าคิดว่ายังไม่พร้อมหรือยังไม่ถึงเวลา หรือเพราะ..อะไรก็ตาม ก็ไม่น่าจะเปิดโอกาสอยู่กับเขาสองต่อสองในที่ลับตาคน เพราะถ้าอารมณ์เพศของเขาเกิดขึ้นแล้วอาจพาให้อารมณ์ของเราเตลิดตามไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้..แล้วเราก็จบลงกันที่ "การมีเพศสัมพันธ์กัน" นั่นเอง
 

เพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน

       การมีเพศสัมพันธ์กันระหว่างหญิงชาย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม หากครั้งนั้นไม่ได้มีการป้องกัน คือ ใช้ถุงยางอนามัย แล้ว สิ่งที่ตามมาและมักจะสร้างความกังวลใจให้กับทั้งคู่มากที่สุดก็คือ "ความกังวลใจเรื่องท้อง" ซึ่งเรื่องนี้ผู้ที่อาจจะรู้สึกกังวลมากกว่าเห็นจะเป็นผู้หญิงเพราะว่าเธอต้องเป็นผู้อุ้มท้อง ..โอกาสท้องจากการมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดขึ้นได้แม้ว่า ฝ่ายชายจะใช้วิธีการหลั่งข้างนอก เพราะการหลั่งข้างนอกนั้นเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายชายใกล้ถึงจุดสุดยอด ฝ่ายชายจะถอนอวัยวะเพศออกมาเพื่อให้น้ำอสุจิหลั่งอยู่ภายนอกช่องคลอดฝ่ายหญิง แต่ในระหว่างที่สอดใส่อวัยวะเพศของตนในช่องคลอดของฝ่ายหญิงก่อนหน้านั้น ถึงจะยังไม่ถึงจุดสุดยอดแต่ก็จะมีน้ำหล่อลื่นและตัวอสุจิผสมไหลปนออกมา ถ้าในช่วงนั้นผู้หญิงมีไข่ตกพอดี อสุจิก็สามารถที่จะแหวกว่ายเข้าไปผสมกับไข่ได้ หรือการใช้วิธีนับหน้า 7 หลัง 7 หรือที่เรียกว่าการนับระยะปลอดภัยเพื่อการป้องกันท้องนั้น ก็จะใช้ได้ผลเฉพาะผู้หญิงที่มีรอบเดือนมาสม่ำเสมอเท่านั้น (รายละเอียดทั้งสองวิธีหาอ่านได้ ด้วยการคลิกไปที่ สรรหามาเก็บ ก้าวที่สอง เรื่อง ถึง “หลั่งข้างนอก”.. ก็อาจท้องได้ กับ เรื่อง นับ “หน้า 7 - หลัง 7” ปลอดภัยจริงหรือโอกาสท้องของผู้หญิงจึงมีมากกว่าที่คิดนะ และอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ค่อยได้คิดถึงเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวก็คือ การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะ "โรคเอดส์" ซึ่งสามารถมีโอกาสติดต่อได้หากเรามีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อเอดส์..ด้วยการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย..และที่สำคัญกว่านั้น  "คุณแน่ใจได้จริงๆ เหรอว่าคู่/แฟนคุณไม่มีเชื้อเอดส์"     

ทำอะไรได้..หลังที่มีเซ็กส์ไม่ป้องกัน

       ขอย้ำอีกครั้งว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันหมายถึง ไม่ได้มีการใช้ถุงยางอนามัยนะ ซึ่งมักทำให้เกิดความกังวลใจเรื่องท้อง ถ้าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น สิ่งที่พอจะช่วยป้องกันเรื่องท้องได้ก็คือ "การกินยาคุมกำเนิดหลังร่วมเพศ" หรือที่หลายคนมักจะรู้จักกันในชื่อ "ยาคุมฉุกเฉิน" หรือ "ยาคุมหลังร่วมฯ"


       วิธีการกินยาคุมฉุกเฉินนี้ จะต้องกินครั้งละ 2 เม็ด โดยเม็ดแรกต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ (แต่ยิ่งกินเม็ดแรกเร็วเท่าไร ยิ่งได้ผลดี) แล้วให้กินเม็ดที่สองห่างจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง ข้อควรระวัง การกินยาคุมหลังร่วมเพศนี้ควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น หรือกรณีถุงยางอนามัยแตก และเดือนหนึ่งไม่ควรกินเกิน 4 เม็ด เพราะถ้ากินมากกว่านี้หรือกินบ่อยๆ เหมือนยาคุมทั่วไป จะทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติได้ เช่น เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ในรายที่เกิดอาการข้างเคียงรุนแรงอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ได้ 

       การสังเกตรอบเดือน   เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะบอกได้ว่า ท้องหรือไม่ท้อง หากรอบเดือนไม่มาภายใน 15 วันหลังมีเซ็กส์ ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยการตรวจปัสสาวะ ซึ่งการตรวจนี้ผู้หญิงสามารถทำด้วยตัวเองได้ ด้วยการหาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์จากร้านขายยามาตรวจเองที่บ้าน ..ถ้าผลเป็นลบ (-) แสดงว่า "ไม่ท้อง" แต่ถ้าผลเป็นบวก (+) แสดงว่า "ท้อง" แต่หากไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย หน้ามืด หรือเวียนศรีษะ ซึ่งเป็นอาการของคนท้องให้รอไปอีก 7 วัน แล้วตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง (ควรอ่านคำแนะนำการใช้ให้เข้าใจขั้นตอนก่อนใช้จริง..ด้วยนะ)

       เซ็กส์ที่ไม่ป้องกัน   อาจมีวิธีจัดการเพื่อป้องกันการท้องได้ แต่ไม่มีวิธีป้องกันการติดเชื้อเอดส์ ทางที่ดีควรใช้ "ถุงยางอนามัย" เพื่อช่วยป้องกันท้อง ป้องกันเอดส์ จะดีกว่ามั๊ย (เรื่องนี้ไว้คุยตอนท้ายนะ)

ถ้าเกิด "ตั้งท้อง"..จะทำยังไงดี

       เมื่อรู้ว่าเราท้องแน่ ๆ แล้ว สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกคือ ตั้งสติของเราให้ดีๆ เสียก่อน อย่าเพิ่งตกใจหรือกังวลใจอะไรให้มากจนเกินไป และให้เวลากับตัวเองได้คิดว่าเราควรจะจัดการกับชีวิตของเราตอนนี้อย่างไรดี ลองคิดดูว่าจะมองหาใครสักคนที่คิดว่าพอจะรับฟังและช่วยคุณคิดได้บ้าง เช่น เลือกที่จะพูดคุยปรึกษากับคู่ของคุณดูก่อน หรือคุยปรึกษากับพ่อแม่ หรือใครสักคนที่คุณคิดว่าสามารถไว้วางใจได้ หรือหน่วยให้คำปรึกษาสำหรับวัยรุ่น เพื่อประเมินความต้องการและทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับตัวเราและปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น


       1. เริ่มต้นชีวิตคู่ไปด้วยกันเลยและวางแผนที่จะดูแลลูกร่วมกันต่อไป
       2. มีคนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวของหญิงหรือชายที่เข้าใจสักคนที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือและสามารถช่วยดูแลลูกหลังคลอดแล้วให้กับเราไปก่อน
       3. ลาพักการเรียนชั่วคราวในช่วงท้องและคลอด และหาใครสักคนช่วยดูแลลูกหลังคลอดให้ก่อน หรือรับเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อจะได้กลับไปเรียนต่อ
       4. ติดต่อบ้านพักฉุกเฉินหรือบ้านพักสตรีที่ให้ที่พักชั่วคราวในช่วงท้องและคลอด แล้วค่อยตัดสินใจต่อไปว่าจะเลี้ยงลูกด้วยกันต่อไปหรือยกเป็นบุตรบุญธรรมให้กับคนอื่นแทน
       5. หากไม่มีความพร้อมหรือเงื่อนไขใดๆ ที่จะช่วยรักษาครรภ์ต่อไปได้ และจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกยุติการตั้งท้องจริงๆ ..ถ้าเป็นเช่นนั้นเพื่อให้ส่งผลเสียต่อร่างกายของตนเองน้อยที่สุด ผู้หญิงควรรีบยุติการตั้งครรภ์ภายในอายุครรภ์ 3 เดือน

 

ป้องกันไว้ก่อน..สบายใจและปลอดภัย

       ในยุคสมัยนี้ เพศสัมพันธ์อาจเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาและสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย "ถุงยางอนามัย" จึงเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยทำให้การมีเพศสัมพันธ์ของคุณทั้งสองคนจบลงด้วยความสุข สบายใจ และปลอดภัย เพราะคุณทั้งสองจะได้ไม่ต้องคอยกังวลใจหรือลุ้นว่าหลังมีเพศสัมพันธ์กันแล้วฝ่ายหญิงจะท้องหรือเปล่า สิ่งนี้ยังสร้างให้เกิดความเครียดและทำให้ความสดใสในชีวิตลดลงไปเปล่าๆ ดังนั้นการเตรียมพร้อมด้วยการพกถุงยางอนามัยติดตัวเอาไว้คงไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร และถ้าผู้หญิงจะหันมาให้ความสนใจกับถุงยางอนามัยมากขึ้นและให้คุณค่ากับมันมากกว่าเดิมก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีและคุ้มค่ามากทีเดียวเพราะมันเรื่องความปลอดภัยของตัวคุณเอง การสร้างความคุ้นเคยกับถุงยางอนามัยน่าจะเป็นเรื่องที่ควรเกิดขึ้นทั้งกับผู้ชายและผู้หญิงไปพร้อมๆ กัน ไม่ใช่เป็นเรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นในเวลานี้ พวกเราคนรุ่นใหม่น่าจะหันกลับมาคิดกันใหม่ว่า"ถุงยางอนามัย" เป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องพูดคุยและช่วยกันเตรียมไว้ เพราะการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะรู้รับผิดชอบตนเองและคู่ของเรา และที่สำคัญเพื่อการมีสุขภาพทางเพศที่ดีของคุณทั้งคู่อีกด้วย..

       เทคนิคที่น่ารู้เกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย..เพื่อให้รู้สึกดีมากขึ้น ก่อนอื่นต้องเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่วิธีการใส่ ควรใส่ในขณะที่อวัยวะเพศชายแข็งตัว ผู้ชายจะเป็นผู้ใส่เองหรือให้ผู้หญิงเป็นคนใสให้ก็ได้ เวลาใส่ต้องบีบปลายถุงยางไล่ลมก่อนแล้วเอามาวางที่หัวส่วนปลายอวัยวะเพศ จากนั้นค่อยๆ รูดไปให้สุดโคน เมื่อผู้ชายหลั่งน้ำอสุจิเสร็จแล้ว จึงถอดถุงยางออก

       ขณะใช้งาน..เวลาสอดใส่เข้าช่องคลอดของฝ่ายหญิงแล้ว เกิดความฝืด หรือทำให้ผู้หญิงรู้สึกเจ็บ ก็ให้เอาเจลหล่อลื่นที่ใช้สำหรับถุงยางทารอบๆ ถุงยางที่สวมใส่อยู่กับอวัยวะเพศแล้วให้ทั่ว แค่นี้ก็จะช่วยทำให้กิจกรรมรักของคุณราบรื่น..ไม่สะดุดรักอีกต่อไป 

       ที่สำคัญ..ขอบอก การใช้ถุงยางอนามัยจะช่วยยืดเวลาการหลั่งน้ำอสุจิของฝ่ายชายให้ช้าลง (คนที่มีปัญหาการหลั่งเร็วอาจช่วยชะลอเวลาให้นานขึ้น) ทำให้คุณสามารถมีความสุขร่วมกับคู่ของคุณได้นานขึ้น..ดีออกอย่างนี้ ยังไม่คิดอยากลองหามาใช้อีกเหรอ แล้วคราวหน้าอย่าลืมเตรียมถุงยางไว้ข้างกายนะ เพราะเมื่อถึงเวลาสำคัญของสองเราครั้งใด ๆ ก็อุ่นใจว่า เราพร้อมที่จะมีเซ็กส์ที่ปลอดภัยเสมอ
"ความสุขที่เกิดขึ้นโดยปราศจากความกังวลใจ..ย่อมเกิดขึ้นจากความใส่ใจและความรับผิดชอบร่วมกันของเราสองคน"


ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : โธมัส ปาร์กเกอร์

Week 1-3 : สัปดาห์ที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์
เซลล์ไข่เริ่มกลายเป็นตัวอ่อนและเจ...
2013-04-05

10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน
10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน (จากปากเรา)...
2013-06-10

การอาบน้ำเด็กทารกอย่างถูกวิธี
วันนี้เราเลยมีวิธีที่จะทำให้เด็กส...
2013-05-21

พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และของเล่นที่เหมาะสม
พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และข...
2013-07-02

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ...
2013-04-25

Week 5 : สัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์
สัปดาห์นี้ ควรฝากครรภ์ได้แล้วนะ...
2013-03-29

9 วิธีเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังอยากจะมาบุตรต้องทำอ...
2013-06-28

การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ควรมองข้าม
การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่...
2013-04-05

น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง
น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง...
2013-04-29

Week 13 : สัปดาห์ที่ 13 ของการตั้งครรภ์
เต้านมของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น, ...
2013-03-29