ภาษาไทย
English

แม่ท้องอ้วนไป-ผอมไป ก็ไม่ดีนะ

          ในช่วงที่ตั้งครรภ์ คุณแม่ไม่ควรควบคุมน้ำหนักด้วย การอดอาหาร แต่ควรลดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง เช่น ขนมหวาน อาหารทอด หันไปเลือกกินผลไม้สดและอาหารประเภทต้ม นึ่ง ย่างแทน การเพิ่มของน้ำหนักที่มากหรือ น้อยเกินไป ต่างก็ทำให้คุณแม่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ในขณะตั้งครรภ์ได้มากขึ้น โดยที่น้ำหนักตัวเพิ่มมากกว่าปกติ อาจทำให้น้ำตาลหรือไขมันในเลือดของแม่สูงกว่าปกติ เกิดเบาหวานหรือภาวะครรภ์เป็นพิษในขณะตั้งครรภ์ได้ เคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวกและเหนื่อยง่าย มือบวมเท้าบวม การลดน้ำหนักหลังคลอดลูกก็ทำได้ยาก แต่ถ้าน้ำหนักตัว ของแม่เพิ่มน้อย อาจทำให้ทารกมีการเจริญเติบโตช้า

 

กระชับหุ่นหลังคลอด

          ในช่วงหลังคลอดไม่ควรเครียดกับการลดน้ำหนักมากเกินไปหรืออดอาหารเพราะยังต้องให้นมลูกอยู่ ควรเน้นกินอาหารที่ไม่ทอด เช่น ปลาลวก น่องไก่นึ่ง กินผักและผลไม้ ข้าวมื้อละ 1-2 ทัพพี หลีกเลี่ยงการกินจุบจิบระหว่างมื้ออาหาร และหมั่นชั่งน้ำหนักตัว

          หลังคลอดแล้ว 6 สัปดาห์ เริ่มออกกำลังกายได้แล้ว อาจไปว่ายน้ำหรือพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ออกกำลังกายกระชับส่วนต่างๆ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อหย่อนยาน อย่างน้อยวันละ 30 นาที

          กระชับกล้ามเนื้อแขนและหน้าอก : นอนราบ จากนั้นยกแขนเหยียดตรงขึ้นตั้งฉากกับพื้น แล้วค่อย ๆ ปล่อยแขนไปทางศีรษะ จนแนบใบหูและยกแขนกลับมาแนบลำตัวอีกครั้ง ทำท่านี้ 8-10 ครั้ง

          กระชับกล้ามเนื้อหน้าท้อง : นั่งขัดสมาธิ ยกแขนขึ้นตรงเหนือศีรษะ ยืดแขนข้างหนึ่งให้สุดแขนแล้วลดลง จากนั้นยืดแขนอีกข้างหนึ่งให้สุดแขน สลับกันไปเรื่อยๆ 10 ครั้ง โดยไม่ยกก้นจากพื้น

          กระชับกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพก : นอนหงาย ชันเข่าทั้งสองข้าง วางมือบนหน้าท้อง ผ่อนลมหายใจออกพร้อมกับค่อยๆ ยกลำตัวและขาข้างหนึ่งพร้อมกัน นิ่งค้างไว้ 3-5 วินาที แล้วจึงสลับกับขาอีกข้าง ทำทีละ 1-2 ครั้ง แล้วค่อย ๆ เพิ่มจำนวนครั้งขึ้นทีละเล็กน้อย

          กระชับกล้ามเนื้อรอบปากช่องคลอด : ฝึกขมิบโดยทำเหมือนกับกลั้นปัสสาวะไว้นับ 1-5 แล้วค่อย ๆ คลายกล้ามเนื้อออกช้า ๆ แล้วเริ่มใหม่ ทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

  • หากมีอาการผิดปกติใด ให้หยุดออกกำลังกายแล้วไปพบแพทย์ทันที
  • น้ำหนักตัวที่เหมาะสม ของคุณแม่ตลอดระยะการตั้งครรภ์ควรเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ ดังนี้
  • แม่ท้องที่มีน้ำหนักปกติ น้ำหนักควรเพิ่ม 12-16 กิโลกรัม
  • แม่ท้องที่มีน้ำหนักน้อย / ผอม น้ำหนักควรเพิ่ม 13–18 กิโลกรัม
  • แม่ท้องที่มีน้ำหนักมาก น้ำหนักควรเพิ่ม 7–12 กิโลกรัม
  • แม่ท้องที่ตั้งครรภ์แฝด น้ำหนักควรเพิ่ม 16–20 กิโลกรัม

          ทั้งนี้ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ต้องพิจารณาร่วมกับ น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ ส่วนสูงและโครงร่าง รวมถึงพัฒนาการของทารกในครรภ์ประกอบด้วย หากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นน้อย แต่ร่างกายยังแข็งแรง พัฒนาการของทารกยังปกติก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ ทุกครั้งที่ไปตรวจครรภ์ คุณหมอจะเช็กน้ำหนักทุกครั้งที่ตรวจร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและทารกได้รับสารอาหาร ที่เพียงพอ และหากน้ำหนักขึ้นมากเกินไปหรือมีภาวะแทรกซ้อนคุณหมอจะแจ้งให้คุณแม่ทราบ

ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : kapook

Week 1-3 : สัปดาห์ที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์
เซลล์ไข่เริ่มกลายเป็นตัวอ่อนและเจ...
2013-04-05

10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน
10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน (จากปากเรา)...
2013-06-10

การอาบน้ำเด็กทารกอย่างถูกวิธี
วันนี้เราเลยมีวิธีที่จะทำให้เด็กส...
2013-05-21

พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และของเล่นที่เหมาะสม
พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และข...
2013-07-02

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ...
2013-04-25

Week 5 : สัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์
สัปดาห์นี้ ควรฝากครรภ์ได้แล้วนะ...
2013-03-29

9 วิธีเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังอยากจะมาบุตรต้องทำอ...
2013-06-28

การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ควรมองข้าม
การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่...
2013-04-05

น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง
น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง...
2013-04-29

Week 13 : สัปดาห์ที่ 13 ของการตั้งครรภ์
เต้านมของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น, ...
2013-03-29