ภาษาไทย
English

เข้าเดือนที่สี่ คุณแม่ยังรู้สึกดีอยู่หรือเปล่า

การตั้งครรภ์ในระยะนี้ นับเป็นเดือนแรกของไตรมาสที่สอง อาการแพ้ท้องในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติ คุณจะเริ่มทานอาหารได้มากขึ้น จากการขยายตัวของมดลูกอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงต่อระบบไหลเวียนโลหิต ในปลายเดือนที่ 4 คุณอาจรู้สึกได้ถึงการดิ้นของทารก แต่อาจจะไม่แรงมากจนคุณรู้สึกได้ชัดเจนหนัก เดือนนี้ทารกในครรภ์จะยาวประมาณ 4 นิ้วฟุต ทารกสามารถจะดูด กลืนอาหาร และเคลื่อนไหวร่างกายได้บ้างแล้ว

ในช่วงนี้ของการตั้งครรภ์ คุณจะรู้สึกว่าเต้านมเริ่มเป็นก้อนเล็กๆ นั่นเป็นเพราะต่อมน้ำนม (Mammary Glands) และท่อน้ำนมกำลังเติบโตขึ้น เพื่อให้ทันเวลาคลอด เต้านมอาจเริ่มผลิตน้ำคัดหลังสีเหลืองที่เรียกว่าคอลอสตรัม (Colostrum) ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารและจะเป็นน้ำนมแรกที่เป็นอาหารของลูกหลังจากคลอดออกมาแล้ว ก่อนที่น้ำนมปกติจะเริ่มไหลต่อไป

 

เต้านมของคุณแม่ตั้งครรภ์

คุณ แม่จะรู้สึกว่าเต้านมขยายใหญ่ขึ้น เมื่อไปสัมผัสถูกจะสึกเจ็บ อาการจะคล้ายๆ กับตอนที่มีประจำเดือน รู้สึกว่ามีอาการตึง คัดตรงบริเวณหน้าอก หัวนมเจ็บ และไวต่อสิ่งสัมผัส มีเส้นเลือดดำสีเขียวๆ ปรากฏขึ้นที่บริเวณผิวหนังรอบเต้านม และหัวนมมีสีคล้ำมากขึ้น

อาการ เหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ในระยะแรกๆ เพราะว่าร่างกายเตรียมสร้างน้ำนมสำหรับลูกที่กำลังจะคลอดออกมาเต้านมจึงขยาย ใหญ่และเป็นอยู่นานไม่หายไปบางคนมีอาการเจ็บบริเวณเต้านมอย่างรุนแรงด้วยแต่ อาการเจ็บนี้จะหายไปได้เองหลังจากตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนไปแล้ว ฉะนั้นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรที่จะต้องอดทนให้มากๆ เพราะสิ่งที่จะตามมานั้นคุ้มค่ายิ่งกว่าคะ

 

 

Pregnancy Calendar Week by Week

WEEK 13 คุณ แม่ตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของฮอร์โมน คือ คุณจะมีฮอร์โมนที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้คุณอาจมีเลือดออกตามไรฟัน และการอักเสบขึ้นมาได้ แต่รกจะทำหน้าที่ผลิตสารเอสโทล และโปรเจสเตอโรนขึ้นมา เพื่อเป็นการช่วยรักษา และควบคุมความสมดุลในร่างกายที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งกานทานผัก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ก็จะช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอได้ดีด้วยเช่นกัน

WEEK 14 คุณ แม่ตั้งครรภ์ควรที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ปรุงไม่สุก เนื่องจากอาหารที่ปรุงไม่สุกนี้จะมีสารที่จะไปยับยั้งการทำงานของไทรอยด์ ทำให้ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทารกในครรภ์เริ่มฝึกจังหวะการหายใจ เริ่มมีหน้าผาก และจมูกที่ชัดเจนขึ้น สามารถหันศีรษะได้ ทารกจะรับรู้ต่อสิ่งเร้าอย่างเสียง แสง และตอบสนองต่อการสัมผัสได้

WEEK 15 ทารกในครรภ์จะมีปุ่มรับรส และทารกจะเริ่มแสดงสีหน้าต่างๆ ได้ นั่นเพราะกล้ามเนื้อใบหน้าได้เจริญเติบโตขึ้นมา ขนตา  คิ้ว เริ่มเป็นรูปร่างแล้ว ส่วนขาจะมีความยาวกว่าแขน ทารกสามารถเคลื่อนไหวข้อต่อได้ทั้งหมด และนี่ก็จะตัวที่ช่วยให้ทารกสามารถขยับตัวไปมาอยู่ในท้องของแม่นั่นเอง

WEEK 16 มดลูก ของคุณแม่ขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้น้ำคร่ำในรกมีความใหญ่มากขึ้นตามไปด้วย น้ำคร่ำที่ใหญ่ขึ้นจะช่วยให้คอลลาเจนรวมตัวกันได้ดี ทำให้เซลล์ยึดติดกันเหนียวแน่น จึงแนะนำให้คุณแม่ทานพืชผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซีมากๆ เพราะจะช่วยให้กระดูกและฟันของทารกแข็งแรงแล้ว ก็ยังช่วยให้ผิวหนังของคุณแม่มีความยืดหยุ่นมากด้วย

 

เรียบเรียงโดย : นิตยสารบันทึกคุณแม่

ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : www.pregnancysquare.com

Week 1-3 : สัปดาห์ที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์
เซลล์ไข่เริ่มกลายเป็นตัวอ่อนและเจ...
2013-04-05

10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน
10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน (จากปากเรา)...
2013-06-10

การอาบน้ำเด็กทารกอย่างถูกวิธี
วันนี้เราเลยมีวิธีที่จะทำให้เด็กส...
2013-05-21

พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และของเล่นที่เหมาะสม
พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และข...
2013-07-02

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ...
2013-04-25

Week 5 : สัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์
สัปดาห์นี้ ควรฝากครรภ์ได้แล้วนะ...
2013-03-29

9 วิธีเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังอยากจะมาบุตรต้องทำอ...
2013-06-28

การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ควรมองข้าม
การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่...
2013-04-05

น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง
น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง...
2013-04-29

Week 13 : สัปดาห์ที่ 13 ของการตั้งครรภ์
เต้านมของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น, ...
2013-03-29