Q : ลูกชายดิฉัน 2 คนจะห่างกัน 4 ปี พี่พีคกับน้องพอสก็ดูจะรักกันดีนะคะ พี่ชาย 5 ขวบ น้อง 1 ขวบค่ะแต่พี่ชายก็ยังจะหวงของเล่นน่าดู ไม่ค่อยแบ่งน้องเลย เป็นงานให้คุณแม่ต้องศึกษาวิธีการเลี้ยงลูกทั้ง 2คนให้รักกัน รู้จักแบ่งปันกันทุกอย่าง รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำด้วยนะคะ
A : ความคิดของเด็ก 5 ขวบยังยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ยังหวงของ เป็นจุดเริ่มต้นการสอนเรื่องการให้ เขาสามารถให้ของกับคนที่เขารักคือพ่อและแม่ได้ แต่เขายังไม่เข้าใจและยังไม่ได้รักน้องที่เกิดมาใหม่มากมายนัก ไม่ได้รักเท่าพ่อแม่ น้องเองก็ยังแบ่งปันกับพี่ไม่ได้ ดังนั้นก็ยังคงเห็นพฤติกรรมที่คุณแม่เล่ามาได้ทั้งหมด แต่จริงๆ เขาอาจแบ่งปันได้บ้าง แต่ให้ได้ยังไม่มากหรือไม่นานพอกับที่พ่อแม่ต้องการ แต่ก็ต้องคอยชมว่าเขาทำได้ จากการชมจากจุดเล็กที่เด็กทำได้ ต่อไปเด็กก็สามารถทำได้เพิ่มขึ้นค่ะ
Q : สามีดิฉันเป็นทหาร และเรามีลูกชายอายุ 3 ขวบหนึ่งคนค่ะ ด้วยความที่เป็นทหารสามีก็จะเลี้ยงลูกแบบเข้มงวด ทำอะไรก็จะบอกให้อยู่ในกฎตลอดเวลา ดิฉันเคยคุยเรื่องนี้กับสามีแล้ว แต่เขายืนยันว่าเขาก็เป็นแบบนี้ ดิฉันควรทำอย่างไรดี เพราะตอนนี้สังเกตได้ว่า ลูกจะเริ่มกลัวคุณพ่อแล้ว เวลาดื้อถ้าดิฉันบอกว่าจะฟ้องคุณพ่อนะ เขาก็จะหยุดทันทีเลยค่ะ กลัวลูกจะเครียดและกลายเป็นคนเก็บกดค่ะ
A : การฝึกเด็กให้มีระเบียบวินัยเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่ง จะส่งผลกระทบต่อไปตลอดชีวิต และจะมีช่วงการฝึกฝนในช่วงเด็กไปจนถึงวัยประถมศึกษาตอนต้น การปล่อยหรือตามใจเด็กมาก่อนและจะมาฝึกให้อยู่ในกฎเกณฑ์กติกาในภายหลัง หรือจะหวังให้ครูมาฝึกเมื่อเข้าโรงเรียนนั้นมักเป็นเรื่องยาก เรียกว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ฉันใดฉันนั้นการฝึกให้ไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้กฎเดียวกัน แต่อาจใช้คนละเทคนิค ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับแต่ละครอบครัว แต่การตามใจสลับการขู่มักเป็นการฝึกที่ไม่ค่อยได้ผล แสดงว่าเด็กไม่กลัวไม่เชื่อแม่เวลาที่แม่เอาจริง ไม่ฟังจนคุณต้องเอาพ่อขู่ เพราะคุณเองก็รู้ว่าเด็กเข้าใจและคาดเดาผลกระทบได้ แสดงว่าวิธีการสอนของพ่อชัดเจน สม่ำเสมอจนเด็กคาดเดาผลลัพธ์ในการที่ไม่ทำตามที่พ่อบอกได้ ถ้าเด็กเล่นกับพ่อได้สนุกสนานแสดงว่าเด็กเองก็รักและสนิทกับพ่อ แต่จะกลัวเวลาที่พ่อเอาจริงมากกว่าค่ะ
บทความโดย : ศ.คลินิก พญ.วินัดดา ปิยะศิลป์