อากาศบ้านเราปัจจุบันนี้ เอาแน่นอนไม่ได้ในแต่ละวัน ยิ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างเดือนพฤศจิกายน พอเริ่มจะมีลมเย็นสัมผัสผิว ตกบ่ายแดดร้อนเปรี้ยงแบบไม่ทันตั้งตัว ผู้ใหญ่อย่างเรายังมีอาการฟืดฟาดคัดจมูก ส่วนเจ้าตัวเล็กก็ยังต้องระวังอีกหลายโรค ที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ โดยเฉพาะเมื่อลูกเป็นหวัด มีน้ำมูกติดต่อกันนานหลายวัน อาการส่วนใหญ่ที่มักจะตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ คือการมีไข้ จะด้วยสาเหตุที่เกิดจากการอักเสบติดเชื้อในช่องทางเดินหายใจ หรือมีอาการไข้จากโรคบางอย่าง คุณแม่ควรที่จะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับอาการตัวร้อนของลูกให้ถูกวิธี อย่ารอจนลูกไข้ขึ้นสูงแล้วจึงพาไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้ลูกมีอาการชักจากไข้สูงได้
เมื่อไหร่ที่ควรให้ยาลดไข้
คุณแม่ควรสังเกตอาการลูกตั้งแต่เริ่มป่วย ในทุกระยะอย่างใกล้ชิด เมื่อวัดอุณหภูมิความร้อนในร่างกายได้ 38 องศา ถือว่าเป้นไข้ และอาจมีอุณภูมิสูงมากขึ้นจนเกิดอันตรายได้ คือ อุณหภูมิ 41.1 องศาขึ้นไป ดังนั้น เมื่อคุณพ่อคุณแม่ เห็นลูกมีอาการซึมมากกว่าปกติ รู้สึกงอแง หงุดหงิด หรือไม่สบายตัว จนนอนไม่หลับ ตื่นมาร้องกลางดึก ควรให้ยาลดไข้ที่รู้จักกันดีและใช้กันอย่างแพร่หลาย คือยาพาราเซตามอล ซึ่งมีความปลอดภัยถ้าให้ในขนาดที่เหมาะสม (ประมาณ 10-15 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ต่อครั้ง)ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 5 ครั้งต่อวัน เป็นต้น
เช็ดตัวลดไข้ หลังจากรับประทานยา ลดไข้ 1 ชม.
การเช็ดตัว ลดไข้ ก็เป็นอีกวิธีที่มีการปฏิบัติกันอย่างแพร่หลาย เห็นผลในการรักษาอาการ และช่วยป้องกันอาการชักจากไข้ได้ ช่วยให้ลูกสบายตัวขึ้น ดังนั้นจึงแนะนำว่าให้ใช้ยา ลดไข้ รับประทานก่อน หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง เมื่อยาลดไข้ออกฤทธิ์ แล้วลูกยังมีอาการไม่สบายตัวจึงทำการเช็ดตัว เพราะการเช็ดตัวโดยไข้ยังขึ้นสูงอยู่นั้น จะทำให้เกิดอาการหนาวสั่น เพราะสมองยังสั่งให้ไข้ขึ้นเพื่อต่อต้านกับการพยายามที่จะทำให้ร่างกายเย็นลงเพียงชั่วคราว พอหยุดเช็ดร่างกายจะกลับร้อนขึ้นไปอีกและขณะเช็ดตัวลูก ควรปิดเครื่องปรับอากาศ ใช้น้ำที่อุณหภูมิห้อง เป็นน้ำอุ่นเล็กน้อยหรือน้ำธรรมดา และไม่ควรเช็ดนานเกินไปจนลูกหนาว เมื่อไหร่ที่เช็ดตัวแล้วลูกมีอาการสั่น นั่นหมายถึงสมองสั่งให้ร่างกายปรับอุณหภูมิให้ไข้ขึ้น ให้หยุดเช็ดไว้ก่อน เพราะอาจทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัวและไข้จะกลับสูงขึ้นกว่าเดิม
ตารางตัวอย่างการใช้ยาพาราเซตามอล 160 มิลลิกรัม ต่อ 5 มิลลิลิตร
ให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวและช่วงวัยต่างๆของลูกน้อย
อายุ | น้ำหนักตัว(กก.) | ปริมาณ(มิลลิลิตร) |
2-3 ปี | 11.0-15.9 | 5.0 |
4-5 ปี | 16.0 – 21.9 | 7.5 |
6-8 ปี | 22.0 – 26.9 | 10.0 |
9-10 ปี | 27.0 – 31. 9 | 12.5 |
11 ปี | 32.0 – 43.9 | 15.0 |