ภาษาไทย
English


กินนมแม่แต่ยังท้องผูก



        ทารกที่กินนมแม่ เมื่ออายุย่างเข้าเดือนที่2-3 มักไม่ถ่ายทุกวัน เพราะคุณอย่าลืมว่านมแม่มีกากน้อย และลูกกินนมแม่แล้วสามารถย่อยได้ดี จะมีกากอาหารเหลือเป็นอุจจาระนิ่มๆ จำนวนไม่มากจึงไม่ค่อยถ่ายบ่อยเหมือนในช่วงเดือนแรก

        เนื่องจากในช่วงหลังเกิดน้ำนมแม่มีสารที่ทำให้ลำไส้บีบตัวเพื่อระบายของค้างในลำไส้ที่ทารกกลืน และหลั่งน้ำย่อยออกมาสะสมอยู่รวมเป็นของเหลวมีลักษณะเหนียวสีเทาๆ ที่เรียกกันว่า ‘ขี้เทา’ ให้หมดไป เมื่อขี้เทาถูกระบายหมดแล้ว อุจจาระเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เพราะนมแม่มีน้ำตาลแลคโทสสูง ย่อยไม่หมดถูกหมักโดยจุลินทรีย์เกิดเป็นกรดแลคติก ดึงน้ำไว้ในโพรงลำไส้ อุจจาระจึงเหลวมีฟองและมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ถ่ายบ่อย 6-8 ครั้งต่อวันหรือกินทีถ่ายที เมื่อได้รับนมแม่ระยะหนึ่ง กรดแลคติกจะกระตุ้นเซลล์เยื่อบุลำไส้เล็กของทารกทำให้เซลล์เยื่อบุลำไส้ของทารกเจริญเติบโตแข็งแรง ทำหน้าที่ดูดซึมได้ดีขึ้น อุจจาระจึงมีน้ำน้อยลงและเปลี่ยนลักษณะเป็นอุจจาระนิ่มและถ่ายน้อยครั้งลง

        คนรอบข้างมักเฝ้าดูว่า วันนี้หนูน้อย ‘อึ ‘ หรือยัง ถ้ายังก็เกิดความกังวลจนรีบสวนให้ และมักพบว่าอุจจาระที่ออกมาไม่ใช่อุจจาระเป็นก้อนแข็ง ถ่ายยากแบบคนท้องผูก ทารกเหล่านี้แม้ไม่ถ่าย 3 วัน ถ้าไม่มีอาการท้องอืดร้องแสดงความอึดอัดไม่สบายท้อง น่าจะรอให้ลูกหัดเบ่ง ‘อึ ‘ เองมากกว่า ผลเสียของการสวนบ่อยๆ คือทำให้ลูกไม่ได้ฝึกการขับถ่ายด้วยตัวเอง เพราะการเบ่งอุจจาระเป็นการประสานการทำงานของหูรูดทวารหนัก กล้ามเนื้อกระบังลม กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานที่เกาะจับที่ผนังทวารหนัก และหูรูดนอกของทวารหนัก

        เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นขอบรรยายกระบวนการขับถ่ายดังนี้ เมื่อกากอาหารหรืออุจจาระลงไปในลำไส้ใหญ่ส่วนปลายถึงบริเวณหูรูดใน จะเกิดการกระตุ้นให้รู้สึกปวดถ่าย อยากเบ่ง ในขณะที่มีความรู้สึกอยากเบ่ง หูรูดในเริ่มคลาย เกิดกระบวนการเบ่งโดยความร่วมแรงระหว่างกล้ามเนื้อกระบังลมที่ยืดตัวให้มีการหายใจเข้าเต็มที่ ร่วมกับการบีบตัวของกล้ามเนื้อหน้าท้อง เกิดความดันในช่องท้องสูงขึ้น บีบรีดอุจจาระในลำไส้ใหญ่ตรงทวารหนักให้ผ่านหูรูดในลงมาพร้อมกับที่หูรูดทวารหนักนอกเปิด อุจจาระจึงเคลื่อนออกมาได้สำเร็จ แล้วกล้ามเนื้อที่ยึดติดที่กระดูกเชิงกรานด้านล่างกับผนังลำไส้หดตัวรีดอุจจาระที่เหลืออยู่ออกให้หมดเป็นการสิ้นสุดการขับถ่าย

        ในระยะฝึกขับถ่ายทารกเล็กๆ ยังควบคุมการเบ่งด้วยการกลั้นลมหายใจไม่เก่ง แทนที่จะเบ่งลมลงล่างกลับเบ่งขึ้นบน เบ่งเต็มที่จนหน้าแดงแต่อุจจาระก็ไม่ค่อยออก ต้องหัดทำใหม่ เมื่อทำบ่อยๆ จะเบ่งลงล่างได้เอง อุจจาระจะออกมาได้ตามต้องการ ถือเป็นความสำเร็จเบื้องต้นของทารกที่เดียว

        ทีนี้มาดูว่าเมื่อช่วยสวนหรือเหน็บอุจจาระจะเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการขับถ่าย การสวนเท่ากับไปกระตุ้นที่หูรูดในโดยที่ไม่ได้เกิดจากการดันของอุจจาระตามธรรมชาติ เมื่อสวนช่วยกระตุ้นให้ถ่ายบ่อยๆ ทารกต้องสนองด้วยการเบ่ง แต่อาจจะเสียการรับรู้ภายในเมื่ออุจจาระลงมาขังอยู่ตรงหูรูดใน คือไม่รู้สึกปวดถ่ายต้องรอให้มีการกระตุ้นอย่างแรงด้วยการเหน็บหรือสวน ซึ่งทำให้ไม่เกิดจากการกระตุ้นตามธรรมชาติ หากไม่สวนช่วยกระตุ้นจากภายนอกเขาก็มักไม่ถ่าย อย่างไรก็ตามการควบคุมการขับถ่ายได้เองจะทำได้เมื่ออายุประมาณขวบครึ่งถึงสองขวบ แต่เด็กที่ถูกสวนเป็นประจำอาจทำได้ช้าและมีปัญหาถ่ายยากจนโต นอกจากนั้นการสวนบ่อยๆ ซ้ำยังทำให้ทวารหนักอักเสบได้อีกด้วย

ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : mothersdigest

Week 1-3 : สัปดาห์ที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์
เซลล์ไข่เริ่มกลายเป็นตัวอ่อนและเจ...
2013-04-05

10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน
10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน (จากปากเรา)...
2013-06-10

การอาบน้ำเด็กทารกอย่างถูกวิธี
วันนี้เราเลยมีวิธีที่จะทำให้เด็กส...
2013-05-21

พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และของเล่นที่เหมาะสม
พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และข...
2013-07-02

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ...
2013-04-25

Week 5 : สัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์
สัปดาห์นี้ ควรฝากครรภ์ได้แล้วนะ...
2013-03-29

9 วิธีเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังอยากจะมาบุตรต้องทำอ...
2013-06-28

การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ควรมองข้าม
การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่...
2013-04-05

น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง
น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง...
2013-04-29

Week 13 : สัปดาห์ที่ 13 ของการตั้งครรภ์
เต้านมของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น, ...
2013-03-29