ภาษาไทย
English

 5 คำถามคาใจแม่ตั้งครรภ์  

โดย : ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ 

 

          Q : ทำไมตอนตั้งท้องหัวนมถึงมีขนาดใหญ่ขึ้น และสีคล้ำขึ้นกว่าเดิม ถ้าคลอดแล้วจะหายไหม และจะกลับมาเหมือนเดิมได้หรือเปล่า 

          A : ตอนที่ตั้งครรภ์เต้านมและหัวนมมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากฮอร์โมนเพศหญิงที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้เกิดการขยายตัวของต่อมเต้านมและหัวนม เป็นการเตรียมตัวที่จะเป็นมารดาในการจะให้ทารกได้ดื่มน้ำนม นั่นเป็นปกติของธรรมชาติเช่นกัน ฮอร์โมนเพศที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์จะทำให้เม็ดสีที่ผิวหนังมีความเข้มขึ้น มารดาตั้งครรภ์จึงมักจะมีสีผิวบาง ส่วนคล้ำขึ้นและหัวนมก็เป็นจุดหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หลังจากคลอดบุตรแล้วระดับฮอร์โมนเพศลดลงก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม


          Q : ตั้งท้องแล้วห้ามทานกาแฟเพราะอะไร แล้วถ้ายังกินวันละแก้วจะมีผลต่อลูกในท้องอย่างไรบ้าง  

          A : ที่จริงก็ไม่ได้มีการห้ามดื่มกาแฟในระหว่างการตั้งครรภ์ เพียงแต่ห้ามดื่มเป็นจำนวนมากเท่านั้นเอง เพราะในกาแฟมีคาเฟอีนซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ตั้งครรภ์ก็ไม่สมควรที่จะดื่มเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว การดื่มเพียงวันละแก้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร แต่ถ้ารักลูกมากแนะนำว่าเปลี่ยนจากการดื่มกาแฟไปดื่มน้ำผลไม้สดๆ น่าจะมีประโยชน์ต่อทารกในครรภ์มากกว่า  


          Q : คำโบราณต่างๆ เช่น “ถ้าตอนท้องกินน้ำมะพร้าว ลูกเกิดมาผิวจะดีและคลอดง่าย” และ “ห้ามกินหน่อไม้ หัวไชเท้า เพราะจะไปล้างยาที่กินเข้าไป” ฯลฯ เชื่อได้ไหม เป็นความจริงหรือเปล่า ถ้านำไปเปรียบเทียบกับการแพทย์สมัยใหม่แล้วมีสาเหตุเกิดจากอะไร
          A : เรื่องแบบนี้คงจะมีความเชื่อมาแต่โบราณแล้ว ส่วนจะมีข้อมูลทางการแพทย์สมัยใหม่มายืนยันคำกล่าวดังกล่าวไหม ก็คงจะต้องตอบว่าเท่าที่อ่านและศึกษามาก็ยังไม่พบผลงานการวิจัยที่เชื่อถือได้ที่จะยืนยันคำพูดดังกล่าว แต่ถ้าถามว่าแล้วทำตามความเชื่อดังกล่าวจะเป็นผลเสียต่อการตั้งครรภ์ทั้งมารดาและทารกไหม ก็คงจะต้องตอบว่าไม่น่าจะมีผลเช่นกัน


          Q : ดิฉันเคยอ่านข่าวเรื่องผู้หญิงไปคลอดที่โรงพยาบาลแล้วเสียชีวิตทั้งแม่และลูก สาเหตุเพราะมดลูกแตกน่ากลัวมาก กรณีนี้สามารถเกิดกับแม่ท้องทุกคนหรือเปล่า    

          A : โอกาสที่จะเกิดมดลูกแตกจนกระทั่งทั้งมารดาและทารกเสียชีวิตนั้นมีน้อยมาก ถ้าไม่ได้มีปัญหาที่มดลูกหรือมีแผลผ่าตัดที่มดลูกมาก่อน โอกาสของการที่มดลูกจะแตกยิ่งน้อยลงไปอีก เพราะฉะนั้นก็คงจะไม่ต้องวิตกกังวลจนเกินกว่าเหตุไป และในระหว่างที่เจ็บครรภ์อยู่มีอะไรที่คิดว่าผิดปกติก็ขอให้แจ้งพยาบาลห้องคลอด หรือแพทย์ผู้ดูแลแต่เนิ่นๆ ก็น่าจะป้องกันได้

 

          Q : ระหว่างคลอดธรรมชาติกับผ่าตัดคลอด เราสามารถเลือกวิธีได้ไหม แล้ววิธีไหนดีกว่ากัน และหลังจากคลอดแล้วแบบไหนจะดีกับการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่ากัน   

          A : ที่จริงแล้วการคลอดตามธรรมชาตินั้นก็เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้มีปัญหาหรือมีภาวการณ์อะไรที่จะทำให้การคลอดตามธรรมชาติเป็นไปไม่ได้ ก็ควรจะคลอดตามธรรมชาติก่อน ในกรณีที่ไม่สามารถคลอดตามปกติได้ เช่น ทารกในครรภ์อยู่ในท่าที่ไม่ปกติ หรือมารดาตั้งครรภ์มีโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการคลอด เช่น เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือเคยมีแผลผ่าตัดที่มดลูกมาก่อนก็น่าจะคลอดโดยการผ่าตัดคลอดแทน

ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : mothersdigest

Week 1-3 : สัปดาห์ที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์
เซลล์ไข่เริ่มกลายเป็นตัวอ่อนและเจ...
2013-04-05

10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน
10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน (จากปากเรา)...
2013-06-10

การอาบน้ำเด็กทารกอย่างถูกวิธี
วันนี้เราเลยมีวิธีที่จะทำให้เด็กส...
2013-05-21

พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และของเล่นที่เหมาะสม
พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และข...
2013-07-02

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ...
2013-04-25

Week 5 : สัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์
สัปดาห์นี้ ควรฝากครรภ์ได้แล้วนะ...
2013-03-29

9 วิธีเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังอยากจะมาบุตรต้องทำอ...
2013-06-28

การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ควรมองข้าม
การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่...
2013-04-05

น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง
น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง...
2013-04-29

Week 13 : สัปดาห์ที่ 13 ของการตั้งครรภ์
เต้านมของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น, ...
2013-03-29