ดนตรี... ภูมิต่านทานทางใจ พัฒนาอารมณ์ให้ลูก

          ภูมิต้านทานทางใจหรือ อารมณ์นั้น สำคัญต่อชีวิต คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่มักอยากให้ลูกอีคิวดี จึงทำทุกวิธีเพื่อเสริมภูมิต้านทานทางใจให้ลูก ดนตรีคือเครื่องมือที่ช่วยได้ดีเลยค่ะ ดนตรีสามารถสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์ให้ลูกได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เริ่มตั้งแต่ช่วยให้คุณแม่อารมณ์ดีตอนอุ้มท้อง เมื่อคุณแม่ได้ฟังดนตรีที่สบายใจ ร่างกายก็หลั่งสารเอ็นโดรฟินที่ก่อให้เกิดความสุข เมื่อคุณแม่สุขลูกก็สุขด้วย ช่วยให้ลูกมีอารมณ์ที่ดีตั้งแต่ในครรภ์ค่ะ

          เมื่อคลอดออกมาลืมตาดูโลก ดนตรีก็มีผลดีต่อลูกอย่างต่อเนื่อง คุณแม่หลายคนใช้ดนตรีกล่อมลูก เพราะมีการวิจัยมาแล้วว่า ดนตรีมีผลต่อสมองเด็ก ดนตรีทำให้สมองผ่อนคลาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อสมองได้ฟังดนตรีก็สามารถแยกแยะอารมณ์ ได้ว่า สุข  เศร้า  โกรธ  กลัว ซึ่งอารมณ์ทางดนตรีนี้ เสมือนภาพจำลองอารมณ์ที่เกิดได้ในชีวิตจริง ดังนั้นหากสมองของลูกได้เรียนรู้ คุ้นเคยกับอารมณ์ต่างๆ เมื่อต้องเผชิญอารมณ์ใดๆ ย่อมไม่หวั่นไหวและแสดงออกได้อย่างเหมาะสม เด็กที่มีประสบการณ์ทางดนตรี มักควบคุมอารมณ์ และเข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นได้ดี  เป็นเด็กที่มี ความฉลาดทางอารมณ์ (EI-Emotional Intelligence) รู้จักควบคุมอารมณ์ (EQ - Emotional Quotient) ทำให้เขาอยู่ในโลกอย่างมีความสุข

          ดังนั้น มากระตุ้นอารมณ์ลูกน้อยด้วยดนตรีกันเถอะค่ะ  ดนตรีที่ดีต้องเหมาะกับลูกในแต่ละช่วงวัย ยิ่งลูกโตขึ้นการรับรู้และระบบประสาทของลูกก็สามารถฟังเพลงที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น คุณแม่ควรเลือกดนตรีให้เหมาะกับลูกด้วยค่ะ
 

•   วัย 1-3 เดือน วัยนี้ชอบฟังเพลงสบายๆ ช้าๆ หรือเพลงกล่อมเด็กซึ่งการฟังเพลงกล่อมจากแม่หรือเสียงที่มีความนุ่มนวล อ่อนโยน จะทําให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ลูกวัยนี้จะเริ่มมองหาที่มาของเสียง แสดงความชอบใจได้
•   วัย 4-5 เดือน ลูกเรียนรู้จังหวะได้มากขึ้น เมื่อได้ยินจังหวะที่ชื่นชอบจะยิ้ม ตีมือชอบใจ หรืออาจส่ายหัวตามจังหวะเพลง คุณแม่จึงควรเลือกเพลงหรือดนตรีที่มีจังหวะสนุกสนานให้ลูกฟัง
• วัย  6-12 เดือน วัยนี้ลูกมีพัฒนาการทางภาษามากขึ้น เริ่มออกเสียงเป็นพยางค์ได้บ้างแล้ว คุณแม่อาจเลือกเพลงที่เป็นคําคล้องจองง่ายๆ ให้ลูกฟัง ซึ่งการให้ลูกฟังเพลงที่มีเนื้อร้องสั้นๆ ง่ายๆ ลูกจะพยายามส่งเสียงเลียนแบบเสียงที่ได้ยิน และแสดงท่าทางต่างๆ ตามเพลง เช่น ผงกศีรษะ โน้มตัวไปมา
•  วัย 1-2 ขวบ การให้ลูกฟังเพลงหรือดนตรีที่มีความซับซ้อนจะช่วยกระตุ้นคลื่นสมองของลูกให้เกิดการจัดเรียงตัวและเกิดความคิดสร้างสรรค์ คุณแม่ควรให้ลูกฟังเพลงที่มีทั้งท่วงทํานองและเนื้อร้องที่หลากหลาย ให้ลูกร้องเพลงและเคาะจังหวะตามไปด้วย จะช่วยเพิ่มทักษะทั้งด้านภาษา การทรงตัวของลูกน้อยนอกเหนือจากการฟังด้วย

เทคนิคใช้เสียงเพลง ปรับอารมณ์ลูกน้อย เมื่อลูกอยู่ในอารมณ์ต่างๆ คุณแม่สามารถเปิดเพลงเพื่อช่วยให้ลูกอารมณ์ดีด้วยโดยการเลือกเพลงให้เข้ากับอารมณ์ดังนี้ค่ะ

     หงุดหงิด ร้องไห้ ใช้เพลงบรรเลงจังหวะไม่เร็ว เมโลดี้ง่ายๆ พร้อมโอบกอด ลูบหัวเบาๆ จะช่วยให้ลูกสงบลงได้

     สนุกสนาน ร่าเริง  เพลงจังหวะเร็วๆอย่างเพลงมาร์ช หรือเพลง Four Season ของ Vivaldi คุณแม่อุ้มลูกน้อยฟังไป โยกตัวไป ส่วนลูกวัยซนฟังไปกระโดดไป ได้ทั้งความสนุกสนานและประโยชน์ต่อสมองลูก

     ไม่มีสมาธิ หาเครื่องดนตรีพวกเครื่องเคาะ หรือคีย์บอร์ดเป็นตัวช่วย เช่น ร้องเพลงด้วยกันโดยกดคีย์บอร์ด หรือเคาะจังหวะไปตามเพลง จะช่วยให้ลูกมีสมาธิขึ้นคะ

     หลับปุ๋ยแสนสบาย ด้วยเพลงที่มีเสียงเดียว เช่น เปียโนอย่างเดียว อย่าง เพลง Lullaby แบบ Music Box หรือเพลงที่แม่ร้องกล่อมลูกก็ได้

ดนตรีมากมาย... ก่อนนอนคืนนี้กล่อมลูกน้อยด้วยเพลงอะไรดี...!!!