ศิลปะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นสติปัญญาลูกน้อย ในช่วง 3 ปีแรกของลูกน้อย เป็นช่วงวัยที่สำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญในการใช้ชีวิตของคนเรา ความคิดสร้างสรรค์ของลูก เป็นสิ่งที่ผู้เป็นคุณพ่อคุณแม่ช่วยพัฒนาได้ โดยต้องกระตุ้นให้ลูกใช้สติปัญหาในการคิดแก้ปัญหาให้มากที่สุด แต่การกระตุ้นนั้น ควรเป็นไปตามแบบแผนที่เป็นระบบชัดเจน เพื่อให้สมองเกิดพัฒนาการ และสามารถนำไปสู่เป้าหมายที่จะก่อร่างระบบความคิดได้นั่นเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถกระตุ้นให้ลูกน้อยเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ โดยเน้นให้ความสำคัญกับการกระตุ้นทางด้านประสาทสัมผัส เพราะประสาทสัมผัสเป็นช่องทางในการรับข้อมูลและส่งเข้าไปในสมอง ซึ่งมีการวิจัยพบว่า การกระตุ้นทางด้านประสาทสัมผัสนั้นยังส่งผลให้เซลล์สมองแตกแขนงใยประสาทมาเชื่อมต่อระหว่างกัน และยิ่งเกิดแขนงใยประสาทมากเท่าไร การติดต่อสัมพันธ์ระหว่างเซลล์ก็เป็นไปได้อย่างทั่วถึง ดังนั้นการคิดแก้ปัญหาจึงมีแนวโน้มว่าจะเกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นและเร็ว ยิ่งขึ้น ดีกว่าการทำงานคนเดียวติดต่อประสานงานกับใครไม่ได้ การแก้ปัญหาก็อาจจะประสิทธิผลได้น้อย หรืออาจเกิดขึ้นไม่ได้เลยก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้การกระตุ้นประสาทสัมผัส จะต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การฝึกประสาทสัมผัสทางมือ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกน้อยได้ลองจับพื้นผิวที่แตกต่างกัน หรืออุณหภูมิทั้งอุ่นและเย็น เพื่อให้ลูกน้อยสามารถแยกแยะความแตกต่าง และกระตุ้นให้เกิดความคิดใหม่ขึ้นได้
เรียนศิลปะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้ การฝึกใช้จินตนาการอย่างอิสระผ่านการทำงานศิลปะ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกน้อยกล้าคิด กล้าริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ได้แสดงออกในสิ่งที่ตนคิดและรู้สึก โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถสื่อสารทางตัวอักษรได้ดี การทำงานศิลปะจะช่วยให้เด็กรักการทำงานและมีความภูมิใจในตนเอง เมื่อลูกได้ทำงานศิลปะแต่ละชิ้นเสร็จสิ้น เขาจะภูมิใจในผลงาน กระตือรือร้นที่จะสร้างผลงานชิ้นใหม่ต่อไป ซึ่งวิธีนี้จะช่วยฝึกความประณีตและสมาธิ ได้อย่างดี มีผลต่อการเรียนรู้ทางวิชาการต่อไปในอนาคตอีกด้วยค่ะ นักจิตวิทยาทางการศึกษาทั่วโลกเชื่อว่าเด็กทุกคนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และสามารถพัฒนาให้เจริญงอกงามได้ตามระดับความสามารถของแต่ละบุคคล ถ้าหากเด็กคนนั้นได้รับการเสริมและสนับสนุนให้มีการแสดงออกภายใต้บรรยากาศที่มีเสรีภาพ สำหรับเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ในตัว สามารถพิจารณาจากพฤติกรรมได้หลายด้านดังนี้ 1.การเป็นผู้สนใจใฝ่รู้ และกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา 2.การเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆด้วยความคิดของตนเอง 3.การเป็นผู้ชอบสำรวจตรวจสอบความคิดใหม่ๆ 4.การเป็นผู้เชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง 5.การเป็นผู้มีประสาทสัมผัสอันดีต่อสิ่งต่างๆ จะเห็นได้ว่าการสร้างสรรค์ คือการเจริญงอกงามทั้งด้านความคิด ร่างกาย และพฤติกรรม และศิลปะคือ เครื่องมือที่ดีและเหมาะสมที่สุดในการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เพราะกระบวนการทางศิลปะไม่มีขอบเขตแห่งการสิ้นสุด สามารถสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ลูกน้อยได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกเกิดความคิดที่ต่อเนื่องไม่จบสิ้น และก้าวไปสู่โลกแห่งจินตนาการอย่างไม่มีขอบเขต ชวนลูกน้อยทำงานศิลปะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์กันเถอะค่ะ ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : mommybear |