ภาษาไทย
English


คุณแม่ทราบหรือไม่ว่า….
7 กลุ่มอาหาร เพิ่มพลังสมองของลูกรักได้

7  กลุ่มอาหารเพิ่มพลังสมองได้อย่างไร?
    หลังกำเนิดจำนวนของเซลล์สมองนั้นจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก แต่เซลล์สมองสามารถสร้างและพัฒนาเครือข่ายได้อย่างมีศักยภาพมากที่สุดในช่วง 3 ขวบปีแรก เส้นใยที่ส่งข้อมูลในสมองให้แตกกิ่งก้านสาขาเพิ่มขึ้นได้ผ่านการสร้างประสบการณ์ ในขณะที่ส่วนของสมองที่เป็นเปลือกหุ้มเส้นใยสมอง หรือ นวมสมองที่เป็นตัวเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้สามารถสร้างเพิ่มขึ้นได้จากอาหารและการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ  อาหารดีมีคุณภาพจึงมีบทบบาทสำคัญในการสร้างความฉลาดให้สมอง

 

   เพราะสมองต้องการอาหารเพื่อพัฒนาการและการเจริญเติบโต แล้วทำหน้าที่ควบคุมการทำงานทุกส่วนของร่างกาย ความคิด ความจำ การเรียนรู้ และอื่นๆอย่างเต็มศักยภาพ ลูกจึงต้องการสารอาหารหลากหลาย  ทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน จึงเป็นหลักการที่ช่วยเสริมสร้างไอคิวลูก ซึ่งทฤษฏี 7 กลุ่มอาหารนี้ เป็นการบอกพื้นฐานทางโภชนาการที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน โดยแนะนำให้ทานอาหาร 7 ชนิดในหนึ่งวัน เป็นทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา ปฏิบัติตามได้ง่ายเหมาะกับยุคสมัย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน สมดุล เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีตามไปด้วยนั่นเองค่ะ

 

แน่ใจหรือว่าลูกคุณได้รับสารอาหารที่ดีพอในแต่ละวัน

   จากงานวิจัยพบว่าเด็กไทยที่อยู่ในวัยเรียนรู้ในปัจจุบัน มีแนวโน้มว่าอาจจะได้รับสารอาหารที่สำคัญบางชนิดไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล รับประทานอาหารไม่หลากหลายเพียงพอ  และวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน  หลักการง่ายๆที่จะช่วยให้แน่ใจว่าลูกได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่ คือใน 1 วันเด็กควรทานอาหารที่หลากหลาย ครบ 7 กลุ่มอาหาร หากรับประทานไม่หลากหลายครบ 7 กลุ่มอาหาร นั่นอาจหมายความว่าลูกได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ ทำให้สมองเรียนรู้ได้ช้า สมาธิน้อยลง และความจำไม่ดี ไม่อยากให้ลูกตกเป็นหนึ่งของกลุ่มเด็กไทยที่เผชิญกับภาวะการพัฒนาการไม่เต็มศักยภาพ อย่ามองข้ามการส่งเสริมการทานอาหารให้ครบ 7 กลุ่มนะคะ

 

7 กลุ่มอาหารสร้างพลังสมอง คืออะไร ?

ทฤษฎี 7 กลุ่มอาหารประกอบด้วยอาหาร  7 ชนิดที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ได้แก่

7food

 

7 สารอาหารสำคัญ อย่าลืมเสริมให้ลูกนะคะ

   ทราบไหมว่าการรับประทานอาหารที่หลากหลายครบ 7 กลุ่มอาหารอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ยังก็จะช่วยให้มั่นใจได้ด้วยว่าลูกจะไม่ขาด 7สารอาหารสำคัญที่เด็กต้องการในแต่ละวัน  อันมีบทบาทช่วยเสริมพัฒนาการที่ดีตามวัยด้วยเช่นกันค่ะ สารอาหารสำคัญที่กล่าวถึง

ได้แก่ 1. แคลเซียม 2. วิตามินดี 3. สังกะสี 4. เหล็ก 5. ไอโอดีน 6. วิตามินบี 1 และสุดท้าย 7. วิตามินเอ ซึ่งสารอาหารแต่ละชนิดเหล่านี้มีความสำคัญแตกต่างกันไปค่ะ

   แคลเซียม มีความสำคัญต่อการสร้างกระดูกและฟัน การทำงานของระบบประสาท เด็กไทยควรดื่มนมให้มากพอเพราะเป็นแหล่งแคลเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการ โดยนมเพียง 2-3 แก้วจะให้แคลเซียมได้ถึง 287.5 มิลลิกรัมเชียวค่ะ ส่วน วิตามินดี จะช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ควบคุมการสร้างกระดูก มีในน้ำมันตับปลา ปลา และร่างกายยังสังเคราะห์ได้จากแสงแดด สังกะสี ก็เป็นส่วนประกอบของเอนไซน์ในร่างกายที่มีมากกว่า 200 ชนิด ช่วยในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายเติบโตดีด้วยค่ะ หาให้ลูกทานได้จากเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล นม สำหรับเหล็ก นับว่าเป็นส่วนประกอบของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ขนส่งสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ทั่วร่างกายและสมอง พบได้ในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ เลือด ตับ ไข่แดง

   ส่วน  ไอโอดีน ที่รณรงค์ส่งเสริมก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ มีหน้าที่ควบคุมการเติบโตของร่างกายและสมอง ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ช่วยพัฒนาสติปัญญาและการเรียนรู้ที่ดี สำหรับ วิตามินบี 1ช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ดี บำรุงระบบประสาท โดยเฉพาะปลายประสาทด้วยค่ะ สุดท้าย วิตามินเอ มีความสำคัญต่อจอประสาทตา ช่วยในการมองเห็น การเติบโตของร่างกาย การสร้างเม็ดเลือด กล้ามเนื้อและกระดูก การสร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อไหร่ที่ลูกขาด ก็จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยได้ง่าย พัฒนาการการเจริญเติบโตก็ผิดปกติ ดังนั้นให้ลูกทานตับ ไข่แดง นม ผักผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนด้วย ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ หรือโปรวิตามินเอ ซึ่งผักโขม ตำลึง ผักบุ้ง แครอท ฟักทองก็มีค่ะ เมื่อไม่ขาดสารอาหารเหล่านี้สมองลูกย่อมได้รับการพัฒนาให้มีไอคิวเพิ่ม และเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพของเขาค่ะ

ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : ข้อมูล โดย คุณ เกศกนก สุกแดง นักวิชาการโภชนาการ ฝ่

Week 1-3 : สัปดาห์ที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์
เซลล์ไข่เริ่มกลายเป็นตัวอ่อนและเจ...
2013-04-05

10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน
10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน (จากปากเรา)...
2013-06-10

การอาบน้ำเด็กทารกอย่างถูกวิธี
วันนี้เราเลยมีวิธีที่จะทำให้เด็กส...
2013-05-21

พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และของเล่นที่เหมาะสม
พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และข...
2013-07-02

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ...
2013-04-25

Week 5 : สัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์
สัปดาห์นี้ ควรฝากครรภ์ได้แล้วนะ...
2013-03-29

9 วิธีเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังอยากจะมาบุตรต้องทำอ...
2013-06-28

การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ควรมองข้าม
การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่...
2013-04-05

น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง
น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง...
2013-04-29

Week 13 : สัปดาห์ที่ 13 ของการตั้งครรภ์
เต้านมของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น, ...
2013-03-29