รักได้...แต่เจ็บให้เป็น.....พระมหาสมปอง
มีคุณโยมท่านหนึ่งมากราบอาตมาที่วัดและได้ร่วมสนทนาธรรมกันถึงปัญหาความรักว่า "เราจะรักอย่างไรเพื่อให้รู้จักรักให้เป็นและจะรักอย่างไร" เพื่อให้ทั้งใจเราและใจเขามีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าความรักนั้นจะสมหวังหรือไม่ก็ตาม
คุณโยมท่านนั้นเปรียบเทียบให้อาตมาฟังว่า รักได้ ก็เหมือนการขับรถได้แค่เสียบกุญแจเข้าเกียร์เหยียบคันเร่ง ไม่ต้องสนกฎจราจร อาจเกิดอุบัติเหตุ ตั้งแต่บาดเจ็บไปจนถึงเสียชีวิตแต่ รักเป็น ก็เหมือนเรารู้ว่ากฎจราจรมีบังคับอย่างไรบ้าง จะแซงขวาต้องเปิดไฟเลี้ยวขอทางจะลงสะพานต้องชะลอความเร็ว เพื่อให้ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพเช่นเดียวกับความรัก ถ้าเรารู้ว่าความรัก คือ" อะไร รักอย่างไรให้มีความสุข รักอย่างไรไม่ให้เป็นพิษย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง " รักให้เป็น คือ เราต้องพิจารณาว่า รักแบบไหน รักทำไม แล้วเราจะรักไปในทิศทางไหน สมัยนี้ที่มีปัญหาเพราะรักได้ แต่ไม่มีสมอง ไม่ใช้ปัญญา ใช้แต่ความหลง หลงว่ารัก หลงว่าดี จนรักทำให้ ตาบอด หลับไปกับความฝัน ลมๆ แล้งๆแต่กว่าจะมีใครเอาไม้มาเขี่ยปลุก ก็ตื่นสาย น้ำลายยือเปียกไปครึ่งหมอนเรามักพูดว่า ความรักไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลใช้เพียงอารมณ์ ความรู้สึก และ สัญชาตญาณ
เท่านั้น แต่เพราะอารมณ์ไม่ใช่หรือที่ทำให้เราเลือกผิดที่ทำให้ต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า ที่ทำให้คิด ฆ่าตัวตาย แต่หากเราใช้ปัญญาประกอบ คือ "สามารถพิจารณาได้ว่า อะไรดี อะไรควรเพื่อไม่ให้หลงไปกับรักลวงอย่างเต็มตัวจนกู่ไม่กลับ" สุดท้ายแล้ว ไม่ว่ารักจะเป็นอย่างไร หรือรักเป็น เป็นอย่างไร ทุกความรักจะต้องมี เมตตามีความปรารถนาดีที่จะมอบสิ่งดี ความรู้สึกดี ความหวังดี ให้แก่ผู้ที่เรารัก ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครหรือมีความรักในฐานะใดก็ตาม หากสมหวังความเมตตาในความรักนั้น จะทำให้เรารักษาและดำเนินรักที่เป็นสุขแต่หากผิดหวังความเมตตา ที่ได้รัก ก็จะทำให้เรายินดีกับรักอย่างเป็นสุขเช่นกัน จากหนังสือธรรมะ Delivery โดย พระมหาสมปอง ตาลปุตโต ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : dhammadelivery |