ภาษาไทย
English

ทำไมเด็กๆ ต้องมี  "เพื่อนในจินตนาการ"

       


          เพื่อนในจินตนาการ (Imaginary Friend) ไม่ใช่เรื่องผิดปกติค่ะ เป็นสิ่งที่เด็กสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยของเขา ในการจัดเก็บอารมณ์และปัญหาต่างๆ ที่เขาไม่สามารถจัดการได้ หรือเป็นเพราะเด็กยังไม่มีประสบการณ์ในการรับมือกับความรู้สึกยากๆ ในชีวิต และยังไม่สามารถจะเรียนรู้วิธีการเพื่อจัดการกับมัน ตัวอย่างเช่น ในช่วง 3-5 ปี เป็นช่วงที่เด็กเริ่มมีพัฒนาการทางการสื่อสาร แต่การจะอธิบายความรู้สึกแก่พ่อแม่หรือผู้คนรอบข้างนั้นอาจทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากเขายังมีคำในคลังคำศัพท์ไม่มากพอ


ตัวอย่างสถานการณ์ที่เด็กอาจสร้างเพื่อนในจินตนาการขึ้นมา

- เวลาที่เขารู้สึกเหงา เบื่อ หรือต้องการความสนใจ ต้องอยู่คนเดียว พ่อแม่ออกไปข้างนอก
- ไปโรงเรียนวันแรก และเขายังไม่มีเพื่อน
- พ่อแม่มีน้องใหม่ และเอาใจใส่น้องใหม่จนไม่มีเวลาให้พี่คนโตอย่างเขามากพอ
- ย้ายโรงเรียน ยังไม่มีเพื่อนสนิท

     เพื่อนในจินตนาการจะเข้ามาเติมเต็มอารมณ์อารมณ์ความรู้สึกหดหู่ ผิดหวัง ความรู็สึกที่ยากจะรับมือ โดยเฉพาะในเด็กที่อายุไม่ถึง 5 ปี

     ยังมีกรณีที่เด็กรู้สึกหวาดกลัวสัตว์บางชนิดในชีวิตจริง เขาก็อาจสร้างสัตว์นั้นๆ ขึ้นมาเป็นเพื่อนของเขา เพื่อให้ตนเองสามารถลดความหวาดกลัวที่มีต่อสัตว์นั้นๆ ลงได้

     ในบางรายน่าเศร้ายิ่งกว่า คือเด็กอาจรู้สึกไม่ได้รับการยอมรับ หรือถูกควบคุมโดยพ่อแม่อย่างสิ้นเชิง เขาอาจสร้างพ่อแม่ในจินตนาการขึ้น เพื่อให้พ่อแม่เหล่านั้น ทำในสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งเขาหาไม่ได้จากชีวิตจริง


     ดังนั้น การมีเพื่อนในจินตนาการจึงเป็นสิ่งที่มีส่วนสำคัญต่อจิตใจอันบริสุทธิ์ของเด็ก เพราะมันจะช่วยปกป้องเขา ช่วยให้เขาสามารถรับมือกับอารมณ์ที่ขุ่นมัว เศร้าหมองได้ดียิ่งขึ้น และหากมองในแง่ดีแล้ว ลูกมีพัฒนาการด้านจินตนาการที่ดีมาก และพ่อแม่สามารถอาศัยเพื่อนในจินตนาการนั้นเข้าถึงจิตใจของลูกได้มากขึ้นด้วย

     อย่างไรก็ดีถ้าลูกทำผิดแล้วโทษว่าเป็นฝีมือของเพื่อนในจินตนาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านด็กก็แนะนำว่า ไม่ควรทำโทษลูกด้วยการว่ากล่าวจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ควรอธิบายถึงกฏเกณฑ์ต่างๆ ในบ้านอีกครั้งและช่วยกันแก้ไขความผิดพลาดนั้นเสีย การกล่าวหาลูกมากๆ เข้ายิ่งทำให้ลูกหันไปหาเพื่อนในจินตนาการมากขึ้นไปอีก

    นอกจากนั้นพ่อแม่ไม่ควรล้อเลียนลูกเกี่ยวกับเพื่อนในจินตนาการว่าไม่มีอยู่จริง แต่ควรทำความเข้าใจและดึงให้เพื่อนของลูกเหล่านั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว อาจจะถามถึงเขาบ้าง หรือปล่อยให้ลูกอยู่กับเพื่อนเหล่านั้นบ้าง เพราะอีกไม่นานเด็กๆ จะโตขึ้นและมีสังคมเพื่อนเป็นของตัวเอง ส่วนเพื่อนในจินตนาการจะหายไปที่สุด

ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมถึงพ่อแม่เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติต่อเพื่อนในจินตนาการอีกมากมาย เช่น

- ไม่ควรปล่อยให้ลูกโยนความผิดที่เขาก่อขึ้นให้กับเพื่อน
- ปฏิบัติต่อเพื่อนเหล่านั้นอย่างให้เกียรติ เพราะคุณมองไม่เห็นพวกเขา หากคุณเผลอไปนั่งทับพวกเขาแล้วลูกคุณบอกให้ทราบ ก็ควรขอโทษ เพราะลูกที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้น เขากำลังสังเกตและเรียนรู็สิ่งที่คุณกำลังปฏิบัติด้วย
- ไม่ควรนำเพื่อนที่มองไม่เห็นของลูกมาใช้ในการเปรียบเทียบกับลูก เช่น ทำไมหนูทานข้าวช้าจัง เพื่อนของหนูเขาทานเสร็จไปตั้งนานแล้ว
- ปกติแล้ว เด็กที่อายุ 5 ขวบขึ้นไปจะเริ่มมีเพื่อนในชีวิตจริง และเขาก็มักจะลืมเลือนเพื่อนในจินตนาการไปได้เอง แต่เขาอาจหาคำตอบแปลกๆ มาให้พ่อแม่ขำเล่นว่า เพื่อนของเขาตายไปแล้ว หรือไม่ก็เพื่อนๆ เหล่านั้นออกเดินทางท่องเที่ยวไกลแสนไกล
ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : momchannel

Week 1-3 : สัปดาห์ที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์
เซลล์ไข่เริ่มกลายเป็นตัวอ่อนและเจ...
2013-04-05

10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน
10 คำชมที่ลูกควรได้ยิน (จากปากเรา)...
2013-06-10

การอาบน้ำเด็กทารกอย่างถูกวิธี
วันนี้เราเลยมีวิธีที่จะทำให้เด็กส...
2013-05-21

พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และของเล่นที่เหมาะสม
พัฒนาการของลูกน้อยช่วงวัย 4-6ปี และข...
2013-07-02

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ...
2013-04-25

Week 5 : สัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์
สัปดาห์นี้ ควรฝากครรภ์ได้แล้วนะ...
2013-03-29

9 วิธีเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังอยากจะมาบุตรต้องทำอ...
2013-06-28

การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ควรมองข้าม
การเลือกเพลงสำหรับเด็กๆ ไม่ใช่เรื่...
2013-04-05

น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง
น้ำอสุจิ..ของเหลวสีขาวขุ่นชวนพิศวง...
2013-04-29

Week 13 : สัปดาห์ที่ 13 ของการตั้งครรภ์
เต้านมของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น, ...
2013-03-29