 |
 |
|
 |
กำราบเจ้าหนูขี้กลัว เดี๋ยวนี้เด็กไทยเราก็อัพเดตความกลัวแปลกๆ ไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกันค่ะ บางคนกลัวกล้วย บางคนกลัวมะนาวหรือเหมือนดาราก็กลัวพวกกระดาษทิชชู่ ปลาทองหรือกุนเชียง อะไรแบบนี้ มาลองเข้าใจความกลัวของลูกกันดีกว่าค่ะ
กลัวขั้นพื้นฐาน
เรื่องกลัวหลักๆ โดยทั่วไป ก็จะมีตั้งแต่กลัวพ่อแม่ไม่รัก กลัวหมา กลัวแมว ไปจนถึงกลัวผี กลัวความมืด กลัวคนแปลกหน้า กลัวฟ้าร้องฟ้าผ่า เป็นต้น สำหรับเด็กๆ หลายๆ คนเมื่อโตขึ้น ตามหลักจิตวิทยาหลังจากอายุ 3 ขวบแล้ว ความกลัวบางอย่างก็จางหายไปได้เอง โดยไม่ต้องไปแก้ไขอะไรเพราะพอโตขึ้นเราจะเริ่มเรียนรู้ได้ว่า บรรดาความกลัวต่างๆ ที่กลัวนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ตัวการใหญ่
แต่คงจะดีกว่า ถ้าเราสามารถช่วยขจัดความหวาดกลัวออกไปจากความคิดของลูกได้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ด้วยการสังเกตว่าเจ้าตัวเล็กมีอาการกลัวอะไรมากกว่าปกติ แล้วพยายามหาทางช่วยเหลือด้วยการขจัดความกลัวนั้นออกไปซะ
ซึ่งตัวการยอดฮิตเลย ก็ผู้ใหญ่รอบข้างๆ ลูกนี่ล่ะค่ะ บางครั้งก็เป็นต้นเหตุของความกลัว เช่นผู้ใหญ่ที่ชอบหยอกล้อเด็กๆ ว่าระวังผีหลอก หรือผีจะมาจับไปในตอนกลางคืน ถ้าเป็นเด็กไม่ดี เป็นต้น เรื่องสนุกๆ ของผู้ใหญ่บางครั้งก็มีผลหลงเหลือก็คือความหวาดกลัวในใจเด็ก ทั้งที่อาจจะไม่ตั้งใจก็ตาม
รับมือความกลัว
- เราอาจช่วยลูกรับมือกับความกลัว ได้ด้วยการอยู่กับเขา สำหรับบางเรื่องก็ให้พาลูกไปรู้จักกับสิ่งที่เขากลัวเพื่อให้เห็นจริงๆ แล้วไม่มีอะไร เช่น ถ้าลูกกลัวแมว กลัวสุนัข เราอาจพาลูกไปเดินดูสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ หรือเปิดหนังสือที่มีรูปสุนัขหรือแมวสวยๆ ไปจนให้เขาลองให้ขนมให้อาหาร และกล้าสัมผัสกับสิ่งที่เขาหวาดกลัว พอเด็กได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ความกลัวนั้นจะลดลงหรือหายไปในที่สุดค่ะ
- ถ้าเด็กกลัวความมืด อาจค่อยๆ ปรับสภาพโดยนอนเปิดไฟ ปรับเป็นหรี่ไฟเวลานอน ความกลัวก็จะลดลงตามลำดับ หรือหาสิ่งที่เขาชอบ เช่น หาตุ๊กตาหมีมาให้นอนกอด หรือสร้างบรรยากาศสนุกสนานขึ้นมาในความมืดก็ได้ เช่น สร้างเสียงหัวเราะให้ลูกด้วยนิทานตลกๆ หรือเล่นเงาด้วยมือ นั่นเป็นวิธีการที่จะทำให้เด็กไม่รู้สึกกลัวความมืด เป็นต้น
ชมเชยดีกว่าตำหนิ
การช่วยประคับประคองให้เจ้าตัวเล็กก้าวข้ามความกลัวด้วยความเข้าใจไม่ใช่ดุด่าว่ากล่าวให้เด็กใจเสียเข้าไปอีกจะทำให้เด็กหายกลัว และเห็นว่าเราเป็นที่พึ่งของเขาได้อีกด้วย เมื่อลูกมีความมั่นใจในตัวเราแล้ว ควรสอนให้เขารู้จักบอกเวลากลัวอะไรขึ้นมา เช่น ไปโรงเรียนโดนใครรังแก หรือมีอะไรที่ทำให้รู้สึกกลัวต้องกล้าบอกพ่อแม่ ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : momchannel |
© Copyright 2001-
 ภาษาไทย ใช้ได้ดีกับ IE10, Chrome, Firefox 1024x768
|