ลูกสาว-ลูกชาย ความเหมือนที่แตกต่าง
พ่อแม่ส่วนใหญ่ มักจะมีวิธีดูแลลูกชายลูกสาวแตกต่างกัน อย่างการเล่นระหว่างพ่อกับลูกสาวนั้น พ่อมักจะเล่นกับลูกสาวอย่างอ่อนโยน นุ่มนวล แต่ถ้าเป็นการเล่นกับลูกชายแล้วล่ะก็ลุยเต็มที่ นอกจากนั้นพ่อแม่มักจัดกิจกรรม ทั้งการเรียน การเล่น การสนทนาของลูกชายและลูกสาวไว้ต่างกันด้วย
พ่อแม่มักใส่ใจลูกสาวมากกว่า
สัญชาตญาณอย่างหนึ่งของพ่อแม่ทั่วโลกคือ จะดูแลเอาใจใส่และพูดคุยกับลูกสาวมากกว่า ส่วนลูกชายจะถูกสอนให้รู้จักอดทน เก็บซ่อนความเจ็บปวดความกลัวเอาไว้
นี่เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายและผู้หญิงเติบโตมาแตกต่างกัน โดยผู้หญิงจะมีทักษะทางสังคม (Social Sense) อยู่มาก ในขณะที่ผู้ชายจะมีความเป็นตัวของตัวเอง (Autonomous Sense) สูง
อย่าละเลยการเล่นร่วมกัน
แต่สำหรับครอบครัวที่มีทั้งลูกชายลูกสาว อย่าละเลยการเล่นด้วยกันนะคะ เพราะการเล่นร่วมกันนั้น จะช่วยปลูกฝังให้ลูกชายได้เรียนรู้ในการทำสิ่งต่างๆ เรียนรู้เรื่องการให้ความช่วยเหลือกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้รู้จักการแสดงบทบาทสมมุติ ส่วนลูกสาวก็จะได้ความกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม ช่วยเพิ่มทักษะการเข้าสังคม อันเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมในภายภาคหน้า ที่เขาจะต้องพบเจอกับผู้คนหลายประเภท ซึ่งอาจไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างทะนุถนอมเหมือนอย่างพ่อแม่
เวลาลูกทะเลาะกัน คุณแม่ควรอธิบายให้เขาเข้าใจความแตกต่างเฉพาะบุคคล และรู้จักการให้อภัย โดยเริ่มจากเรื่องที่เกิดกับตัวเขา และยกตัวอย่างเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจให้เขาฟัง
การเล่นตุ๊กตาของเด็กชาย
การเลือกของเล่นให้ลูก ต้องดูที่ความเหมาะสมของวัย ซึ่งของเล่นบางชิ้นก็จะมีบอกไว้ด้วยที่ฉลากข้างกล่อง แต่คุณแม่ต้องมาพิจารณาอีกทีว่าเหมาะสมที่จะให้ลูกเล่นไหม เช่น ของเล่นจำพวกตุ๊กตาอาจเหมาะกับลูกวัยหนึ่ง แต่เมื่อโตขึ้นอาจไม่เหมาะ
สิ่งหนึ่งที่คุณแม่ควรรู้คือ การเล่นตุ๊กตาไม่ได้เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงเท่านั้น เด็กชายก็เล่นตุ๊กตาได้ โดยจุดเริ่มต้นอาจเหมือนเด็กผู้หญิง คือเริ่มจากการชอบตุ๊กตารูปสัตว์นุ่มๆ พอถึงวัยที่เด็กหญิงเริ่มชอบตุ๊กตาเหมือนคน เช่น ตุ๊กตาเด็ก ตุ๊กตาเจ้าหญิง เด็กชายก็จะมีความสนใจที่แตกต่างออกไป โดยเขาจะชอบตุ๊กตาทหาร ตำรวจ ตุ๊กตาที่ดูแข็งแกร่ง และตุ๊กตาที่สร้างจากตัวเอกในการ์ตูนที่เขาชอบซึ่งมักเป็นหุ่นยนต์หรือพวกยอดมนุษย์
ให้เด็กๆ ได้เลือกของเล่นเอง
ถ้าให้เลือกของเล่นเอง เด็กผู้ชายมักเลือกของเล่นที่มีเสียง มีล้อ ของที่เคลื่อนที่ได้ กระแทก ทุบได้ อย่างลูกบอล รถ หุ่นยนต์
ส่วนเด็กผู้หญิงก็มักจะเลือกของเล่นที่นุ่มนวลอย่างตุ๊กตาผ้า ของเล่นที่จำลองมาจากของจริง อย่างชุดเครื่องครัว ชุดน้ำชา ชุดเฟอร์นิเจอร์
แต่ในบ้านที่มีทั้งลูกชายและลูกสาวควรเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เล่นของเล่นของพี่หรือน้องต่างเพศ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นการเล่นไม่ตรงกับเพศ
เล่นด้วยกันจะเบี่ยงเบนหรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญพัฒนาการเด็กแนะนำว่า ไม่ควรยึดติดกับการเลือกของเล่นที่ตรงตามเพศของลูกมากนัก ควรให้โอกาสพวกเขาได้เล่นของเล่นที่หลากหลาย เพราะจริงๆ แล้วการเล่นตรงข้ามเพศจะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น ซึ่งจะพัฒนาไปสู่การปรับตัวเข้าสังคมเมื่อเติบใหญ่ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ควรสนับสนุนให้เด็กๆ ได้เล่นในสิ่งที่เขาอยากเล่น หากลูกชายอยากเล่นชุดเครื่องครัว เล่นขายของแบบเด็กผู้หญิง หรือลูกสาวอยากเล่นหุ่นยนต์ก็อย่าเพิ่งไปกังวล
ลูกๆ ควรมีของเล่นมากน้อยแค่ไหน
ไม่ว่าลูกสาวหรือลูกชาย การเล่นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงวัย 0-5 ปี เป็นช่วงที่สมองพัฒนาอย่างรวดเร็ว การเล่นถือเป็นอาหารสมองที่จะช่วยส่งเสริมให้การพัฒนาการด้านต่างๆ เป็นไปได้เร็วขึ้นด้วย
แต่การเล่นที่มากเกินไป หริอการที่เด็กมีของเล่นมากเกินความพอดี ก็ไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป เนื่องจากถ้าคุณแม่ให้ลูกเล่นของเล่นหลายชิ้นมากเกินไป เด็กจะลดความสนใจจากของเล่นนั้นคือจะสนใจเล่นของเล่นแต่ละชิ้นเพียงไม่นาน
ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า เมื่อเด็กเห็นของเล่นหลายชิ้นวางอยู่ตรงหน้า จะเกิดความตื่นเต้นดีใจ แต่เด็กๆ มักขี้เบื่อ สนใจอะไรได้ไม่นาน และจะชอบของใหม่อยู่เสมอ เมื่อเขามีของเล่นหลายชิ้น เด็กจะไม่สนใจเล่นของเล่นชิ้นใดชิ้นหนึ่งอย่างจริงจัง
ในขณะที่เด็กที่มีของเล่นน้อยชิ้น จะสนใจ จดจ่อ และเล่นของเล่นอย่างตั้งอกตั้งใจ และมีสมาธิกว่า ดังนั้น เวลาเล่นกับลูก เลือกของเล่นออกมาเล่นเพียงไม่กี่ชิ้น ดีกว่าที่จะยกของเล่นออกมาทั้งหมดค่ะ
แล้วเด็กๆ ควรมีของเล่นมากน้อยแค่ไหน มีการศึกษาพบว่า เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ ควรมีของเล่นคนละ 24 ชิ้น แต่จำนวนที่กล่าวถึงนี้ไม่นับรวมหนังสือเข้าไปด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นนิทานภาพ หนังสือลอยน้ำ หนังสือกึ่งของเล่น ไม่ต้องจำกัดจำนวนเลยค่ะ เพราะหนังสือคือตัวช่วยที่ดีที่สุด ที่ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก และเป็นพื้นฐานที่จะทำให้เขารักการอ่าน และการเรียนรู้ต่อไป ขอขอบคุณภาพประกอบและบทความ : momchannel |