พ่อจ๋า “มาเล่นซน” กัน

             ลูกน้อยวัย 1 – 3 ขวบ เป็นวัยแห่งการสำรวจค่ะ จึงไม่ต้องแปลกใจ หากเห็นเจ้าจอมซนวิ่งวุ่นทั้งวัน หยิบโน่นรื้อนี่จนบางครั้งทำเอาคุณตามแทบไม่ทันเลยใช่ไหมค่ะ วิธีตามลูกวัยนี้ให้ทันง่ายนิดเดียวค่ะ คือเล่นซนไปกับลูกไงค่ะ
 
วัยซนเล่นรอบบ้าน
             การที่ลูกวัยนี้วิ่งรอบบ้าน จับโน่นหยิบนี่เป็นเพราะลูกกำลังเรียนรู้สิ่งรอบตัวด้วยการสัมผัสค่ะ ในช่วงขวบแรกลูกอาจจะเริ่มสัมผัสตัวเองก่อน เช่น การอมมือ อมเท้า แล้วเริ่มเรียนรู้สิ่งรอบตัวด้วยการหยิบ คว้า จับของเล่น พอเริ่มคลานได้ เดินได้ และวิ่งคล่องขึ้น ทีนี้ก็จะวิ่งวุ่นทั้งบ้านล่ะค่ะ เพราะลูกชอบปีนป่ายที่สูง ขว้างปาสิ่งของ และปั่นจักรยานสามล้อได้
 
             เห็นเด็ก ๆ เล่นซนอย่างนี้ อย่าคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรนะคะ เพราะจริง ๆ แล้วพัฒนาการด้านร่างกายของลูกค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น การวิ่งเล่น การหยิบจับ การขว้างปา ล้วนแต่เป็นวิธีเสริมสร้างกล้ามเนื้อของลูกให้แข็งแรงขึ้นตามวัย เป้นการฝึกให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ทำงานได้เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน
 
             คุณพ่อคุณแม่บางคนมักปล่อยให้ลูกเล่นตามลำพัง หรือบางคนชอบห้ามลูกเล่นซน เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังขู่ให้ลูกกลัวจนเกินเหตุ เหล่านี้จะทำให้ลูกขาดความมั่นใจที่จะลงมือทำสิ่งต่าง ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนให้ลูกเล่นได้อย่างอิสระ แต่ควรอยู่ในกรอบของความเหมาะสมและความปลอดภัย เพื่อให้ลูกได้สั่งสมประสบการณ์ และเติบโตอย่างสมบูรณ์ทุกด้านค่ะ

 
วัยซนอยากเล่นกับคุณพ่อ  

      การเล่นซนของเด็กวัยนี้เป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งถ้าเจ้าตัวเล็กได้เล่นซนกับพ่อ ซึ่งตามธรรมชาติผู้ชายมักจะกล้าเล่นซนมากกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว

      ดังนั้น เวลาที่คุณพ่อได้อุ้มลูกน้อยโยกไปมา ให้ลูกที่ขอ เล่นโยนบอลลูกจึงรู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนานกว่า

      สิ่งสำคัญสำหรับคุณพ่อผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวในการเล่นซนกับลูก คืองานยุ่ง เดี๋ยวมีประชุม มีสัมมนา ต้องไปอบรม ต้องรีบปิดยอดบัญชี ฯลฯ เหนื่อยหนักขนาดนี้กลับถึงบ้านก็อยากพักผ่อน หรือคุณพ่อบางคนคิดว่าการเลี้ยงลูกเป็นเรื่องของคุณแม่ เพราะมีเวลาดูแลลูกมากกว่า ก็น่าจะเข้าใจและเล่นกับลูกได้ดีกว่า

      แต่ความจริงแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่มีบทบาทเท่าๆกัน และมีความสำคัญต่อพัฒนาการของลูกทั้งคู่ค่ะ แต่อาจจะเป็นคนล่ะด้าน ดังนั้น คุณพ่อควรให้เวลาลูกได้เล่นกับคุณพ่อบ้าง อาจใช้เวลาไม่นานเพียง 5 – 10 นาที ก่อนลูกเข้านอน แต่ใช้อย่างคุ้มค่า เป็นเวลาคุณภาพ

 
เล่นซนๆ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

      ประโยชน์อีกอย่างหยึ่งของการเล่นซน ๆ ในวัยนี้ ยังสามารถช่วยสร้างสมดุลร่างกายให้ลูก ช่วยเรื่องทรงตัว ดังนั้นจึงไม่ควรเน้นผล แพ้ชนะ แต่ควรเน้นเล่นเพื่อให้ลูกได้ฝึกใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน และให้ทุกส่วนทำงานสอดประสานกันได้ดี เช่น

    * เล่นแป้งโดว์ปั้นดินน้ำมัน เป็นการเล่นที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กให้วัยซนค่ะ อย่ากังวลเรื่องความเลอะเทอะ

    * แค่หากระดาษไม่ใช้แล้ว ปูพื้นและใส่ชุดกันเปื้อนให้ลูกก่อนเล่น ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องเปรอะเปื้อนแล้วล่ะค่ะ
                   แรกๆ คุณพ่ออาจจะเป็นตัวอย่างปั้นไปเล่านิทานไปหรือร้องเพลงประกอบการปั้นก็ได้นะ ค่ะ พอลูกเห็นว่าน่าสนุก ลูกก็จะเริ่มปลดปล่อยจินตนาการการปั้นเป็นรูปต่างๆ ยิ่งถ้าได้พูดได้แล้ว คุณพ่อลองให้ลูกเล่าสิ่งที่ปั้นเป็นรูปต่างๆ ดูสิคะ ลูกอาจจะสร้างสิ่งที่เราคาดไม่ถึงก็ได้

    * โยนรับลูกบอล เป็นการเล่นที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมันใหญ่ และมัดเล็ก การเล่นรับส่วลูกบอล เป็นกิจกรรมยอดฮิตของเด็กวัยนี้ จะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้เรื่อง ขนาด รูปร่าง สีสัน การเคลื่นไหวทั้งจับ เหวี่ยง โยน ปา เตะ ซึ่งล้วนแต่ช่วยพัฒนาการทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อ มือ เท้า สายตา และระบบประสาท

    * เดินข้ามเครื่องกีดขวาง เป็นกี่เล่นที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมันใหญ่ คุณพ่อลองเอาหมอนมาวางกั้นเป็นแนวยาวเหมือนลู่วิ่งข้ามเครื่องกีดขวาง แล้วชวนลูกมาเดินแข่งกัน จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อขาค่ะ

     นอกจากนั้นยังช่วยให้ลูกได้เรียนรู้กฎกติการและจังหวะในการปล่อยตัว เตรียมพร้อม... เข้าที่... ระวัง... ไป! ลูกจะได้ฝึกความคล่องตัว ละกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ทั้งแขน ขา มือ และการทำงานสอดประสาทหูและตาอีกด้วย

 
เล่นซนๆ ความปลอดภัยต้องเป็นที่หนึ่ง
 

     ลูกวัยซนชอบรื้อชอบค้น ชอบสำรวจและไม่รู้จักระมัดระวัง คุณพ่อคุณแม่จึงต้องคอยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น ด้วยการจัดเตรียมพื้นที่ให้ลูก ได้เล่นอย่างปลอดภัย เช่น

    * เก็บข้าวของในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่วางของเกะกะ

    * ของที่แตกง่าย ยาและสารเคมีควรเก็บให้พ้นมือลูก

    * รูเสียบปลั๊กไฟ หากไม่ใช้ควรใช่ที่ปิดเพื่อป้องกัน ไม่ให้ลูกเอานิ้วแหย่

    * เลือกของเล่นที่มีความปลอดภัยและเหมาะสมตามวัยให้ลูก

    * ต้อง มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลติดบ้าน เพราะเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ในเมื่อมีวิธีป้องกันแล้ว ก็ต้องมีวิธีเตรียมรับมือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดด้วย

     ปล่อยให้ลูกเล่นซนอย่างอิสระและปลอดภัย นอกจากช่วยให้ร่างกายของลูกแข็งแรงแล้ว สมองก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่...